ลูกหนี้กฟก.1.94หมื่นรายเก้อ เลขาฯกองทุนฯระบุติดเงื่อนสตง. เลื่อนจ่ายเงินไม่มีกำหนด

28 ก.ค. 2559 | 10:00 น.
ลูกหนี้ กฟก. 1.94 หมื่นราย ในโครงการซื้อหนี้ 3 พันล้านรอเก้อเลขาฯกองทุนฟื้นฟูฯเผยถูก สตง. ท้วงติง ทำให้การซื้อหนี้เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ด้านคณะกรรมการจัดการหนี้ใจดีเปิดให้ขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกรเพิ่มเติมถึง 28 กันยายนนี้ เป็นวาระพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้กรณีเร่งด่วนอีกด้านโชว์ผลงาน ในรอบ 10 ปี จัดการหนี้ได้ 2.8 หมื่นราย ใช้เงินไปร่วม 6 พันล้าน

นายวัชระพันธุ์ จันทรขจร เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงโครงการรับซื้อหนี้ 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหานี้สินเกษตรกรเร่งด่วนในส่วนสมาชิกของกฟก. จำนวน 19,494 หมื่นราย ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจอนุมัติไว้ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2558 โดยที่ก่อนหน้านี้กฟก.รับปากกับเกษตรกรว่าจะสามารถจ่ายได้ประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ปรากฏว่ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ท้วงติงในเรื่องเดิมๆ

สำหรับข้อท้วงติงของสตง.นั้นประกอบด้วย 1.เรื่องโครงการฟื้นฟูฯ ไม่มีประสิทธิภาพ 2.การจัดการหนี้ฯ ไม่มีประสิทธิภาพ และ 3.การบริหารจัดการไม่เป็นไปตามหลักธรรมภิบาล (ดูตารางประกอบ) เป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาทางสำนักงานเองได้พยายามดำเนินการแก้ไขในส่วนที่ท้วงติงแล้ว แต่จะมีบางเรื่องที่อาจจะต้องใช้เวลา อย่างไรก็ดีจะเร่งทำหนังสือเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป จึงทำให้โครงการจ่ายเงินต้องชะลอออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนดว่าจะสามารถซื้อหนี้เกษตรกรได้เมื่อไร

นายวัชระพันธุ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สำหรับวัตถุประสงค์ในโครงการรับซื้อหนี้ตามนโยบายรัฐบาลนั้น มี 3 ข้อประกอบด้วย1.เพื่อรักษาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของเกษตรกร 2.เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เร่งด่วนของเกษตรกรสมาชิก และ 3.เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรสมาชิกที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกองทุน โดยเป็นหนี้กับสถาบันเจ้าหนี้ตามกฎหมายกำหนดและกองทุนได้ดำเนินการตรวจสอบถูกต้องแล้ว ในกรณีที่ตรวจสอบพบเกษตรกรสมาชิกขาดคุณสมบัติในภายหลัง ให้สำนักงานกองทุนฯเสนอคณะกรรมการจัดการหนี้ฯ ถอดถอนรายชื่อหรือเพิ่มเติมรายชื่อเกษตรกรสมาชิกที่มีคุณสมบัติถูกต้องเพื่อใช้งบประมาณ จำนวน 3,000 ล้านบาท ชำระหนี้แทนได้จนกว่าจะเสร็จสิ้นส่วนใหญ่อย่างที่ทราบเป็นลูกหนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรณีผิดนัดชำระ จำนวน 16,144 ราย จำนวนเงิน 2,176 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มสหกรณ์ จำนวน 3,025 ราย จำนวนเงิน 554 ล้านบาท เป็นต้น

ด้านแหล่งข่าวจากคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ของ กฟก. เผยว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้มีการรับขึ้นทะเบียนหนี้เพิ่มเติม ประจำปี 2559 จนถึงวันที่ 28 กันยายน 2559 เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เป็นกรณีเร่งด่วน สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จึงได้มีประกาศรับขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกรเพิ่มเติม ประจำปี 2559 จากเดิมได้ประกาศขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกรปีละ 1 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -30 มิถุนายน 2559 ของทุกปี โดยทางสำนักงานได้แจ้งประกาศและประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ พร้อมทั้งจัดเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เอกสาร และสถานที่ในการับขึ้นทะเบียนหนี้ของเกษตรกรตามระยะเวลาที่กำหนดในประกาศ เกษตรกรที่ต้องการขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร สามารถติดต่อขอรับแบบฟอร์มการขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานสาขาจังหวัดที่เป็นสมาชิก หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ สำนักจัดการหนี้ของเกษตรกรแต่ละจังหวัดในวันและเวลาราชการ

ส่วนเรื่องการจัดการหนี้ของเกษตรกร เมื่อเกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนหนี้แล้ว ทางสำนักงานจะตรวจสอบความมีอยู่จริงของหนี้และหลักประกัน ตามมาตรา 37/6 เพื่อดำเนินการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แทนเกษตรกรโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุนฯ ปัจจุบันสำนักงานได้ดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกรแล้ว ในรอบ 10 ปี (ปี 2549-2558) จำนวน 28,515 ราย จำนวนเงิน 5,817 ล้านบาท สามารถรักษาที่ดินทำกินของเกษตรกรไว้ได้ 143,376 ไร่ 2 งาน 62.9 ตารางวา นอกจากนี้ยังมีเงินรับชำระคืนจากองค์กรเกษตรกรกู้ยืม จำนวน 37,476,330 บาท และเงินรับชำระหนี้คืนจากเกษตรกรที่ได้รับการชำระหนี้ จำนวน 106,164,515 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2558)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559