จัดระเบียบแค่รถตู้ไม่พอ?

เป็นอีกครั้งที่ได้ยินข่าวกระทรวงคมนาคมมีคำสั่งจัดระเบียบรถตู้ย่านอนุสาวรีย์ ซึ่งถือเป็นคิวรถตู้ที่มีผู้คนมาใช้บริการจำนวนมาก ทั้งๆที่ในความเป็นจริงไม่ได้ถูกก่อสร้างมาให้เป็นสถานีขนส่งแต่อย่างใด

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมผู้ใหญ่ในกระทรวงคมนาคมที่ยังคงติดตามผลงานของปัญหา เพราะก่อนหน้าก็เคยมีคำสั่งจัดระเบียบรถตู้ย่านนี้มาแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นได้แก้ปัญหาด้วยการจัดหาพื้นที่จอดรถบริเวณย่านมักกะสันของการรถไฟฯให้จอดรถรอเป็นการชั่วคราวก่อนเข้ามารับผู้โดยสารเพื่อลดปัญหาจราจรติดขัดในย่านดังกล่าว

แต่พอเวลาผ่านไปผู้ใหญ่กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะได้ข้อสรุปของการจัดระเบียบในครั้งก่อน จึงได้มองเห็นจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องที่มีผลทำให้การจัดระเบียบครั้งนั้นไม่บรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาจราจรติดขัด จึงต้องออกคำสั่งจัดระเบียบรถตู้กันอีกรอบ โดยรอบนี้มีคำสั่งให้รถตู้จำนวนกว่า 4 พันคันที่บริการผู้โดยสารในย่านดังกล่าวย้ายออกไปจอดในที่บขส.กำหนดให้ 3 จุดเท่านั้น คือ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ใหม่และสถานีขนส่งเอกมัย โดยจะเริ่มทดลองกันตั้งแต่วันที่ 1-15 สิงหาคมก่อนที่จะดีเดย์ใช้จริงวันที่ 25 ตุลาคมนี้

ด้วยมีความหวังลึกๆในใจว่า น่าจะแก้ปัญหาจราจรติดขัดได้อย่างเด็ดขาด!!

แบบนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งนี้ คงมิได้มีแค่ผู้ประกอบการรถตู้เท่านั้น ผู้โดยสารจำนวนมากที่ใช้บริการ ทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมไปถึงคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลที่มีมากกว่า 1 แห่งในย่านดังกล่าวเดือดร้อนกันแน่ๆ แม้ผู้ใหญ่ในกระทรวงจะจัดรถบัสมาบริการรับ-ส่งไปยังสถานีขนส่งทั้ง 3 แห่งก็ตาม แต่ด้วยความเคยชิน รวมถึงความสะดวกสบายที่มีมากกว่ารถโดยสารประจำทางผลกระทบก็ยังคงได้รับกันอยู่ดี เพราะนอกจากจะต้องใช้เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นแล้ว ปัญหาจราจรติดขัดในย่านดังกล่าวก็น่าจะคงมีอยู่

อย่างที่ทราบปัจจุบันย่านอนุสาวรีย์ชัยฯได้ถูกยกฐานะให้เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางทั้งในเขตกรุงเทพฯปริมณฑลและต่างจังหวัดทั่วไทย ซึ่งเป็นที่รับรู้กันไม่เฉพาะคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังรู้และเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากมีถนนหลายสายหลักพุ่งเข้ามาบรรจบ 4 ทิศ พร้อมบริการรถโดยสารขสมก.เชื่อมทั่วกรุง รวมถึงระบบรถไฟลอยฟ้า(บีทีเอส)สายสีเขียวที่พาดผ่านในย่านดังกล่าว
สภาพการณ์แบบนี้รู้สึกเห็นใจผู้เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงคมนาคมในฐานะเจ้าภาพ กทม.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในฐานะผู้ดูแลด้านการจราจร เพราะการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมักจะสร้างปัญหาอย่างที่กล่าวมาข้างต้น แต่อย่างไรคงต้องทดลองกันไปแล้วมาสรุปผลกันอีกที

แต่ที่แน่ๆการจัดระเบียบรถตู้ด้วยการบังคับให้ไปจอดและบริการยังสถานีขนส่งนั้น คงไม่สามารถแก้ปัญหาจราจรติดขัดในย่านอนุสาวรีย์ชัยฯได้อย่างที่พึงประสงค์ได้ เพราะด้วยกายภาพของย่านดังกล่าวที่เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทาง รวมทั้งการกระจุกตัวอาคารสำนักงานโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า นั่นเอง ดังนั้นหากจะจัดระเบียบกันจริงๆ ต้องไม่จำกัดเฉพาะแค่รถตู้ รถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง รถส่วนบุคคล รวมถึงทางเดินเท้าโดยรอบจะต้องมีการจัดระเบียบด้วยเช่นกัน

ป.ล.สำหรับทางเดินเท้าโดยรอบจะต้องไม่มีสิ่งปลูกสร้างร้านค้าโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำลายทัศนียภาพความสวยงามในย่านนั้นแล้ว ยังเบียดบังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนเดินเท้าอีกต่างหาก!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559