สรุปมติคณะรัฐมนตรี(26 กรกฎาคม 2559)

26 ก.ค. 2559 | 10:00 น.
ไฟเขียวรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน/สีแดงเข้มงบกว่า 4.4 หมื่นล้าน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้(26 กรกฎาคม 2559) อนุมัติดำเนินงานก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ - พญาไท - มักกะสัน - หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ - หัวลำโพง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มูลค่าโครงการ 44,157 ล้านบาท ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร รวม 9 สถานี ความเร็วประมาณ120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้ จากโครงการนี้ คาดว่า ในช่วงแรกจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 211,000 เที่ยวต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 330,000 เที่ยวต่อวัน มีผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจประมาณ 29% ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.ให้สำนักงบประมาณจัดงบประมาณประจำปี หรือกระทรวงการคลัง เป็นผู้ดำเนินการหาแหล่งเงินกู้

ทั้งนี้ เมื่อผ่านความเห็นชอบจากครม.แล้ว รฟท.จะเปิดประกวดราคาใน 3 สัญญา ช่วงปลายเดือนสิงหาคม ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานโยธาฯ ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง-มักกะสัน ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร สัญญาที่ 2 งานโยธาฯ ช่วงมักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร สัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมจัดหาตู้รถไฟฟ้า และเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างเป็นเวลา 3 ปี ปลายปี 2562 แล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการต้นปี 2563

อย่างไรก็ดี กรณีที่พื้นที่ในเขตพญาไทประมาณ 78 ตารางวาที่จะต้องโยกย้าย รื้อถอนที่อยู่อาศัยออกจากพื้นที่รวมประมาณ 1,000 ครอบครัวนั้น ก.คมนาคมได้เตรียมวงเงินชดเชยเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบไว้แล้ว กรณีอยากให้รัฐช่วยเรื่องที่อยู่อาศัยให้จัดส่งเข้าสู่โครงการบ้านที่พักอาศัยของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต่อไป

หนุนเกษตรหาแหล่งกักเก็บน้ำ/ขุดบ่อบาดาล 

ที่ประชุม ครม.(26 กรกฎาคม) อนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรในโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิก เพื่อให้เกษตรกรพัฒนาพื้นที่ตนเองและมีระบบน้ำสำรองกรณีฉุกเฉิน โดยการขุดบ่อกักเก็บน้ำ และจุดบ่อบาดาลเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้งอย่างเป็นระบบ พื้นที่เป้าหมาย ทั้งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 100 แห่งใน 50 จังหวัด รวมสมาชิก 6,000 ราย รวมพื้นที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้รายละ 10 ไร่ รวมพื้นที่ประมาณ 6,000 ไร่ โดยกองทุนส่งเสริมเกษตรกร จะให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กู้ยืมเป็นเวลา 5 ปี ดอกเบี้ย 0% จากนั้นนำไปปล่อยกู้ให้กับกลุ่มเกษตรกรต่างๆที่มีรายได้หลักจากการเกษตร เพื่อนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น กรณีขุดบ่อกำหนดให้พื้นที่  1 ไร่ ลึกไม่น้อยกว่า 2 เมตร รายละ 50,000 บาท หรือขุดเจาะน้ำบาดาล รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ น้ำหยด วงเงิน 50,000 บาทต่อราย ส่งคืนปีละ 10,000 บาทต่อปี เป็นเวลา 5 ปี

ทั้งยังเห็นชอบขยายกลุ่มเป้าหมายและขยายรายการเครื่องจักรกลทางการเกษตรในโครงการส่งเสริมการให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อลดต้นทุนสมาชิก ระยะขยายผล ปี พ.ศ.2559 - 2562

ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิต

ที่ประชุม ครม.(26 กรกฎาคม) เห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิต เพื่อส่งเสริมให้เกิดการออม จากเดิมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมิได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงเห็นชอบให้ได้รับสิทธิพิเศษเช่นเดียวกันกับการซื้อประกันชีวิต โดยสามารถนำเงินฝากเพื่อสงเคราะห์ชีวิตที่มีระยะเวลาฝากเกิน 10 ปีขึ้นไป หักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน (รวมยอดเงินฝากสงเคราะห์ชีวิต และเบี้ยประกันชีวิตที่มีอยู่) เริ่มมาตราตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป

เทงบให้ สสว. ฟื้นฟูเอสเอ็มอี 2 พันล้าน

ที่ประชุม ครม.(26 กรกฎาคม) เห็นชอบหลักการมาตรการฟื้นฟูกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่ออุดหนุนกองทุนฯจำนวน 2,000 ล้านบาท จากงบกลางปี 2559 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น อย่างไรก็ดี เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว กระทรวงการคลังจะเติมเงินให้กับกองทุนฯดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อนำไปใช้อุดหนุนกิจการลงทุนกับเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาโดยเฉพาะ อาทิ กรณีถูกฟ้องร้องล้มละลาย โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกำหนดนโยบายในการบริหารกองทุนดังกล่าว พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขต่างๆ โดย คณะกรรมการสสว.จะเป็นผู้จัดตั้งคณะกรรมการดังกล่าว

ไฟเขียวแรงงานต่างด้าวใช้ใบเสร็จขึ้นทะเบียนได้

ที่ประชุม ครม.(26 กรกฎาคม) เห็นชอบหลักการแนวทางการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถนำใบเสร็จจากการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล มายื่นขอจดทะเบียนที่ศูนย์จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวได้ โดยไม่ต้องรอผลตรวจสุขภาพแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี หากทราบผลตรวจภายหลังว่า มีโรคติดต่อร้ายแรงก็สามารถที่จะเอาผลตรวจมาเพิกถอนใบอนุญาตและส่งกลับประเทศได้ ซึ่งจะทำให้แรงงานต่างด้าวที่จะมีอายุครบ 2 ปี สามารถอยู่ต่อไปได้อีก 2 ปี หรือกระทั่งถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561

นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบหลักเกณฑ์การขยายเวลาจ่ายเงินเข้ากองทุนส่งแรงงานต่างด้าวกลับประเทศ จากเดิมจะครบกำหนดในวันที่ 25 มิถุนายน 2559 เป็นวันที่ 25 มิถุนายน 2561