‘ผลธัญญะ’ตุนเงินประมูลงาน เพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม/ลุ้นปีนี้รายได้โต 30%

26 ก.ค. 2559 | 11:00 น.
ผลธัญญะ ขยายฐานทุนเฉียด 300 ล้าน เพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิมราคา 2 บาท พร้อมออกวอร์แรนต์ ระดมเงินรองรับงานก่อสร้างระบบนํ้าประปาชุมชนปีงบประมาณ 2560 หวังคว้างานใหม่ 600 ล้าน เผยตุนงานในมือแล้วกว่า 400 ล้าน มั่นใจปีนี้รายได้โต 25-30%

[caption id="attachment_74872" align="aligncenter" width="700"] ราคาหุ้น PHOL ราคาหุ้น PHOL[/caption]

นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน)(บมจ.) (PHOL) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเพิ่มทุนเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน(RO) และออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือวอร์แรนต์ของบริษัท (PHOL-W1) และออกวอแรนท์เสนอให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท (ESOP-Warrant) โดยจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติประเด็นดังกล่าว ในวันที่ 29 สิงหาคม 2559

ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของ PHOL จำนวน 88.99 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 161.99 ล้านบาท เป็น 250.99 ล้านบาท ด้วยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน หุ้นจำนวน 88.99 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จัดสรรไม่เกิน 40.49 ล้านหุ้น เสนอให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิม (RO) ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในกระดาน เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 ปิดตลาดที่ระดับ 3.88 บาท

นายบุญชัย กล่าวว่า บริษัท เตรียมความพร้อมเข้าประมูลงานระบบน้ำประปาชุมชนเพิ่มในปีงบประมาณ 2560 ตั้งเป้าได้งาน 600 ล้านบาท หลังจากปี 2559 เข้ารับงานก่อสร้างระบบประปาชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้เซ็นสัญญารับงานแล้ว 135 โครงการ และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีก 5โครงการ รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ซึ่งเริ่มทยอยรับรู้รายได้ไปบ้างแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และจะสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาในการก่อสร้างเฉลี่ยโครงการละประมาณ 6-8 เดือนเท่านั้น โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้อีกประมาณ 30% ในไตรมาส 2/2559 ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2559

สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2559 มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแผนงานที่บริษัท ได้ตั้งเป้าไว้ และสอดคล้องกับการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐบาลและภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ทั้งมุ่งเน้นเข้าประมูลงานโครงการด้านระบบบำบัดน้ำจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ ถึงแม้ว่ารายได้จากงานก่อสร้างระบบน้ำจะมีอัตรากำไรขั้นต้น หรือมาร์จินไม่สูงนักแต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก็อยู่ในเกณฑ์ต่ำทำให้กำไรอยู่ในระดับเดียวกับธุรกิจเดิม นอกจากนี้บริษัทฯมีความสามารถในการรับงานได้จำนวนมาก และเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ทำให้กำไรเติบโตขึ้นได้

ส่วนธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือเซฟตี้ อาจได้รับผลกระทบบ้างจากภาคการผลิตในอุตสาหกรรมโดยรวมที่ยังเป็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เชื่อมั่นว่าธุรกิจเซฟตี้ยังสามารถเติบโตได้ จากการมุ่งเน้นรักษาลูกค้าที่มีศักยภาพและการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559