อสังหาฯโลว์ซีซันเดือด แห่อัดโปรโมชันปั๊มยอด/PFงัดดอกเบี้ย 0% ปีแรก

26 ก.ค. 2559 | 12:00 น.
ตลาดอสังหาฯช่วงโลว์ซีซันเดือด ดีเวลอปเปอร์งัดโปรโมชันหนักมากกว่าแจกแถมช่วยกระตุ้นรายได้ “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค”อัดยาแรงมาตรการด้านการเงิน ดอกเบี้ย 0%ปีแรก จากนั้นผ่อนล้านละ 3,000 บาท เริ่มสิงหาคมนี้ แอล.พี.เอ็น.ชูบิ๊กแคมเปญ “ช็อคเป็นคู่ยูนิตที่ 2 ลด 50%” เร่งสปีดดีมานด์บ้านพร้อมอยู่ เอพี เตรียมจัดงาน “AP SPACEVISION”

[caption id="attachment_74876" align="aligncenter" width="700"] โปรโมชัน โปรโมชัน[/caption]

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์ตลาดว่า หลังจากหมดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯจากภาครัฐ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง เหลือ 0.01% ตลาดอสังหาฯก็ชะลอตัวต่อเนื่อง เหตุเพราะผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจ จึงไม่อยากก่อหนี้ระยะยาวอย่างการซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบกับช่วงเวลาในปัจจุบันอยู่ในช่วงโลซีซั่นของตลาดอสังหาฯ เนื่องจากเป็นฤดูฝนลูกค้าไม่นิยมออกมาดูบ้าน ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการจึงต้องจัดโปรโมชั่นดึงกำลังซื้อ ซึ่งคาดว่าในปีนี้โปรโมชั่นที่ออกมาจะมีความรุนแรงกว่าช่วงเวลาอื่น

ในส่วนของบริษัทได้ใช้โปรโมชั่นทางการเงินที่มีชื่อว่า "สเต๊ปท์ เรท" สำหรับรายละเอียดของโปรโมชั่นดังกล่าวคือ ดอกเบี้ย 0% ในช่วง 1 ปีแรก หลังจากนั้นผ่อนล้านละ 3,000 บาท ในปีที่ 2 และล้านละ 4,000 บาทในปีที่ 3 สุดท้ายที่ล้านละ 5,000 บาท หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด โดยเริ่มโปรโมชั่นดังกล่าวในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

"การใช้โปรโมชั่นทางการเงินถือเป็นยาแรงของบริษัทที่จะนำมาใช้กระตุ้นตลาด เนื่องจากบริษัทจะมีต้นทุนที่สูงขึ้นมากกว่าการจัดโปรโมชั่น แจกหรือแถม ดังนั้นจึงเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าตลาดตกอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อหมดโปรโมชั่นดังกล่าวบริษัทก็มีแผนจะใช้โปรโมชั่นทางการเงินต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ในเดือนสิงหาคมนี้"นายวงศกรณ์ กล่าว

สำหรับยอดขายในช่วง 6เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2559) อยู่ที่ประมาณ 5,800 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 10% คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1.6 หมื่นล้านบาทได้อย่างแน่นอน

ด้าน นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดแคมเปญส่งเสริมการขายที่สุดแห่งปี "ช็อคเป็นคู่ ยูนิตที่ 2 ลด 50%" โดยได้นำ 13 โครงการพร้อมอยู่ อาทิ ลุมพินี พาร์คบีช จอมเทียน, ลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงค์อมาตย์, ลุมพินี คอนโดทาวน์ ชลบุรี-สุขุมวิท, ลุมพินี ซีวิว จอมเทียน ฯลฯ จำนวน 2,400 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 2,800 ล้านบาท มาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ โดยมีวัตถุประสงค์หวังกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงภาวะซบเซา

หลังจากหมดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐให้กลับมาคึกคักมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีบ้านในราคาที่จับต้องได้ ภายใต้แบรนด์ "ลุมพินี" สำหรับเงื่อนไขในแคมเปญพิเศษนี้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อห้องชุดเป็นคู่ (2 ห้อง) โดยห้องชุดแรกจองซื้อในราคาปกติ ส่วนห้องชุดที่ 2 รับส่วนลด 50% ทันที ซึ่งต้องเป็นห้องชุดภายในโครงการเดียวกัน และต้องโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 15 วัน หลังจองซื้อ ซึ่งบริษัทเริ่มแคมเปญอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 กรกฎาคม-30 กันยายน 2559

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจคอนโด 1 และกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมจัดงาน ‘AP SPACE VISION’ เพื่อตอบสนองกระแสความต้องการที่อยู่อาศัยเจาะทำเลใจกลางเมือง พร้อมเดินหน้าสร้างความเติบโตในตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง โดยเตรียมข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ครบทุกประเภทของเอพี ในราคาขายเริ่มต้นที่ 1.82 ล้านบาท พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 1,4 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด พบว่า สินค้าคงเหลือสะสมรวม ณ กลางปี 2559 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 ประมาณ 2% จาก 171,905 หน่วย ณ สิ้นปี 2558 เพิ่มเป็น 174,750 หน่วย (เพิ่ม 2,845 หน่วย) ขณะที่สินค้าเปิดขายใหม่ในครึ่งแรกปี 2559 จำนวนโครงการ จำนวนหน่วยขาย มูลค่า และราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 โดยมีจำนวนโครงการเปิดใหม่ในครึ่งปีแรก 2559 จำนวน 198 โครงการ ลดลง 27 โครงการ (-12%) จำนวนหน่วยขายเปิดใหม่ 43,235 หน่วย ลดลง 16,065 หน่วย (-27%) มูลค่าโครงการอยู่ที่ 1.49 แสนล้านบาท ลดลง 8.79 หมื่นล้านบาท (-37%) สำหรับราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย 3.447 ล้านบาท ลดลง -14% จากราคา 4.029 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2558 ในส่วนของยอดขายอยู่ที่ 40,408 หน่วย ลดลงจากครึ่งปีแรก 2558 จำนวน 7,826 หน่วย หรือ (-16%) ประมาณการยอดซื้อทั้งปีที่ 80,816 หน่วย ลดลงจากทั้งปี 2558 จำนวน 22,826 หน่วย (-22%)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559