ชง‘สมคิด’ดันส่งออกครึ่งหลัง ใช้วิกฤติจีนเป็นโอกาสไทย / เทียร์2.5 ลุยเจาะตลาดเพิ่ม

25 ก.ค. 2559 | 10:00 น.
ส่งออกไทยปี 59 ยังไม่สิ้นหวัง พาณิชย์ชงแผนดันส่งออกเดือนที่เหลือเสนอ “สมคิด” ชูพลิกวิกฤติจีนถูกคู่ค้าใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนเป็นโอกาสไทยเร่งส่งออกสินค้าทดแทน ทั้งตลาดสหรัฐฯ อินเดีย ยุโรป พร้อมจัดกิจกรรมเคาะประตูรายสินค้า เร่งใช้โอกาสไทยขึ้นเทียร์ 2.5 บุกตลาดเพิ่ม ขณะตลาดญี่ปุ่นใช้ช่องทางเจาะผ่านเทรดดิ้งเฟิร์มรายใหญ่ หลังเปลี่ยนนโยบายลดพึ่งจีน เพิ่มค้าไทย-CLMVมากขึ้น

[caption id="attachment_74859" align="aligncenter" width="700"] การค้าระหว่างประเทศของไทยกับโลก ช่วง 5 เดือนแรกปี 2559 การค้าระหว่างประเทศของไทยกับโลก ช่วง 5 เดือนแรกปี 2559[/caption]

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากที่ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจได้มาหารือและติดตามงานที่กระทรวงพาณิชย์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดทางกรมได้ทำแผนผลักดันการส่งออกในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ให้รองนายกฯรับทราบ ไม่ว่าจะเป็นการบุกตลาดอินเดีย สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป(อียู) ส่วนหนึ่งจะใช้วิกฤติของคู่แข่งให้เป็นประโยชน์ เฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่จีนได้ถูกคู่ค้าใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD)และมาตรการตอบโต้การอุดหนุนสินค้า(CVD)ในประเทศเป้าหมายของไทย

ทั้งนี้จะเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าไทยเข้าไปทดแทนสินค้าจีน โดยกลุ่มสินค้าที่จีนถูกใช้มาตรการAD และ CVD จำนวนมาก และไทยยังมีศักยภาพในการแข่งขัน เช่นโลหะพื้นฐาน เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ยาง อุปกรณ์การเดินทาง สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม สำหรับแผนงานจะจัดเป็นภารกิจเคาะประตู(KNOCK DOOR MISSION )รายสินค้าเพื่อผลักดันเชิงลึกในสินค้านั้นๆไปยังเมืองใหม่ คู่ค้ารายใหม่ ในตลาดเก่า ได้แก่ ยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ โดยจะนำคณะผู้ส่งออกบุกไปขายสินค้ายังประเทศเป้าหมายที่ไม่เคยซื้อสินค้าไทยมาก่อนหรือมีสินค้าไทยน้อยมาก เช่น เมืองฟูกุชิมาของญี่ปุ่น สินค้ากลุ่มเป้าหมายที่จะนำไปได้แก่ กลุ่มสุขภาพ อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น

นอกจากนี้ไทยจะเร่งใช้โอกาสจากสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP)ที่ไทยยังได้รับจากสหรัฐฯ รวมถึงกรณีที่ไทยได้รับการปรับสถานะดีขึ้นจากรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯในปี 2559 โดยขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม Tier 2 Watch List (เทียร์ 2.5) จะช่วยปรับภาพลักษณ์สินค้าไทยที่ดีขึ้น ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันการส่งออกในกลุ่มอาหารทะเล สิ่งทอ และน้ำตาลที่ไทยถูกเพ่งเล็งเรื่องปัญหาแรงงานก่อนหน้านี้

ส่วนตลาดญี่ปุ่นอีกหนึ่งตลาดหลักจะเน้นเจาะตลาดผ่านบริษัทการการค้า หรือเทรดดิ้งเฟิร์มรายใหญ่ หลังจากที่ญี่ปุ่นปรับเปลี่ยนนโยบายการค้าการลงทุน หันมาให้ความสำคัญกับไทยและกลุ่ม CLMV(กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม)มากขึ้น ได้วิเคราะห์ในเบื้องต้นว่าสินค้าที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากจีนจะลดลงและไทยเองก็มีศักยภาพในการขยายตลาด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอาหาร เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์การเดินทาง อุตสาหกรรมหนัก และจะเน้นกลุ่มสินค้าใหม่เชิงนวัตกรรมในการเจาะตลาดเฉพาะ เช่น สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และสินค้าไลฟ์สไตล์ สร้างช่องทางเข้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ผ่านโครงการพัฒนาสินค้าที่กรมดำเนินการอยู่ เช่น โครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดีเด่นประจำปี 2559

"กรมยังมีความร่วมมือกับบีโอไอ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการไปบุกเจาะตลาดที่มีศักยภาพ เช่น เมียนมา กัมพูชา และอินเดีย และจะขยายผลการเยือนของคณะผู้บริหารระดับสูง ที่ได้ไปเปิดโอกาสทางการค้าการลงทุนไว้ในตลาดต่างๆ ทั้งรัสเซีย อิหร่าน ศรีลังกา อินเดีย เพื่อผลักดันรายได้กลุ่มสินค้าและจัดทำภารกิจการค้าอย่างต่อเนื่อง" นางมาลี กล่าว และว่า

กรมยังมีแผนการผลักดันการทำงานภายใต้คณะทำงานประชารัฐ ในการพัฒนาโครงสร้างที่เอื้อต่อการส่งส่งออก เช่นการจัดตั้งKnowledge Tank ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนใน CLMV การตั้ง CLMV Business Council เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าร่วมกัน รวมไปถึงการผลักดันการส่งออกภายใต้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ด้านเศรษฐกิจในกลุ่ม CLMV เพื่อสร้างความสัมพันธ์และแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าในแต่ละประเทศ

นางมาลีกล่าวด้วยว่า กรมอยู่ระหว่างเร่งหารือกับเอกชนรายใหญ่ในแต่ละกลุ่มสินค้าเพื่อประเมินและร่วมจัดทำแผนผลักดันการส่งออกในครึ่งปีหลังอย่างเต็มทีและเตรียมประชุมประเมินสถานการณ์การส่งออกของทูตพาณิชย์ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ด้วย หลังจากที่การส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม) หดตัว 1.9% ในขณะที่ภาคเอกชนได้ประเมินว่าการส่งออกไทยปี 2559 น่าจะขยายตัว -2 ถึง 0% ขณะที่ทางกรมตั้งเป้าไว้เดิมขยายตัวที่ 5% จะปรับเป้าส่งออกหรือไม่นั้นต้องรอดูการประชุมทูตพาณิชย์ที่จะมีขึ้นก่อน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559