ตลาดข้าวในประเทศซึม ประมูล 3.8 ล้านตันไม่คึก
โรงสีชี้ตลาดข้าวสารในประเทศยังซบเซา มีของแต่ไม่มีคนซื้อ จากออร์เดอร์ส่งออกชะลอตัว รอข้าวใหม่ออก ระบุก.พาณิชย์เปิดประมูลถี่เกินไป ทำรอบล่าสุด 3.8 ล้านตัน ไม่คึกคักเท่าที่ควร ขณะกรมการค้าต่างประเทศยํ้าสต๊อกที่เหลือ 9.5 ล้านตันระบายหมดปี 60 ผู้ส่งออกข้าวเริ่มเครียดหลังข้าวไทยราคาสูงกว่าคู่แข่งตันละ 50 ดอลล์ ขณะผลผลิตประเทศผู้นำเข้าทั้งจีน อินโดฯ ฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นยังไม่นำเข้า เป้าส่งออกอาจวืด
[caption id="attachment_74863" align="aligncenter" width="500"]
มานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย[/caption]
นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึง การเปิดประมูลซื้อขายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ทั้งเป็นการทั่วไปและเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ปริมาณ 1.63 ล้านตัน และให้กับเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ 2.18 ล้านตัน รวมทั้งสิ้น 3.8 ล้านตันนั้น ต้องประเมินวันเปิดซองพิจารณาคุณสมบัติของกรมการค้าต่างประเทศในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ว่า จะมีผู้ผ่านคุณสมบัติกี่ราย แต่จากเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมีผู้มายื่นซองรวม 47 รายนั้นถือว่า ไม่คึกคักเท่าที่ควรถ้าเทียบกับปริมาณข้าวที่จะเปิดระบาย สาเหตุสำคัญจากมีการระบายถี่เกินไป และปัจจุบันถึงมีข้าวอยู่ในตลาดก็ไม่ค่อยมีคนซื้อหรือมีก็ซื้อน้อย จากผู้ส่งออกไม่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ และตลาดต้องการข้าวใหม่
"ตลาดข้าวสารในประเทศขณะนี้ซึมมาก ซึ่งคาดว่าข้าวใหม่จะออกสู่ตลาดประมาณเดือนตุลาคมก็น่าจะทำให้ตลาดคึกคักได้บ้าง ส่วนข้าวเก่าที่รัฐบาลระบายก็มีตลาดแอฟริกา ก็ต้องไปดูว่าเขามีออร์เดอร์หรือไม่"
ขณะที่นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มองต่างมุมว่า เอกชนให้ความสนใจร่วมประมูลซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลในจำนวนที่น่าพอใจ แม้การระบายทั้ง 2 รูปแบบจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด เช่น ต้องมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศอยู่แล้ว และแม้จะมีข้อจำกัดทั้งเรื่องกำหนดเวลาขนย้ายและการส่งหลักฐานคำสั่งซื้อและรายงานการส่งออกจริง ทั้งนี้ทางกรมมีแผนจะเร่งระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่อีกประมาณ 9.5 ล้านตันให้หมดภายในปี 2560
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่การส่งออกข้าวของไทยในปี 2559 จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ที่ 9.5 ล้านตัน โดยคาดว่าจะส่งออกได้เพียง 9.2 ล้านตัน เพราะราคาข้าว(ขาว 5%)ของไทยปัจจุบันสูงกว่าคู่แข่งเฉลี่ยที่ตันละ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาข้าวขาวเก่าของไทยขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ข้าวใหม่ตันละ 420 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่อินเดียผลผลิตเริ่มดีขึ้น เวียดนามก็ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมากตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากไทยในขณะนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าในไตรมาสที่ 3 และ 4 ประเทศผู้นำเข้าข้าวจะมีคำสั่งซื้อเข้ามาบ้าง ตามวงจรการค้าข้าวปกติ
Photo : Pixabay ภาพปกไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_74863" align="aligncenter" width="500"]
นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึง การเปิดประมูลซื้อขายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ทั้งเป็นการทั่วไปและเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ปริมาณ 1.63 ล้านตัน และให้กับเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ 2.18 ล้านตัน รวมทั้งสิ้น 3.8 ล้านตันนั้น ต้องประเมินวันเปิดซองพิจารณาคุณสมบัติของกรมการค้าต่างประเทศในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ว่า จะมีผู้ผ่านคุณสมบัติกี่ราย แต่จากเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมีผู้มายื่นซองรวม 47 รายนั้นถือว่า ไม่คึกคักเท่าที่ควรถ้าเทียบกับปริมาณข้าวที่จะเปิดระบาย สาเหตุสำคัญจากมีการระบายถี่เกินไป และปัจจุบันถึงมีข้าวอยู่ในตลาดก็ไม่ค่อยมีคนซื้อหรือมีก็ซื้อน้อย จากผู้ส่งออกไม่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ และตลาดต้องการข้าวใหม่
"ตลาดข้าวสารในประเทศขณะนี้ซึมมาก ซึ่งคาดว่าข้าวใหม่จะออกสู่ตลาดประมาณเดือนตุลาคมก็น่าจะทำให้ตลาดคึกคักได้บ้าง ส่วนข้าวเก่าที่รัฐบาลระบายก็มีตลาดแอฟริกา ก็ต้องไปดูว่าเขามีออร์เดอร์หรือไม่"
ขณะที่นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มองต่างมุมว่า เอกชนให้ความสนใจร่วมประมูลซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลในจำนวนที่น่าพอใจ แม้การระบายทั้ง 2 รูปแบบจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด เช่น ต้องมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศอยู่แล้ว และแม้จะมีข้อจำกัดทั้งเรื่องกำหนดเวลาขนย้ายและการส่งหลักฐานคำสั่งซื้อและรายงานการส่งออกจริง ทั้งนี้ทางกรมมีแผนจะเร่งระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่อีกประมาณ 9.5 ล้านตันให้หมดภายในปี 2560
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่การส่งออกข้าวของไทยในปี 2559 จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ที่ 9.5 ล้านตัน โดยคาดว่าจะส่งออกได้เพียง 9.2 ล้านตัน เพราะราคาข้าว(ขาว 5%)ของไทยปัจจุบันสูงกว่าคู่แข่งเฉลี่ยที่ตันละ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาข้าวขาวเก่าของไทยขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ข้าวใหม่ตันละ 420 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่อินเดียผลผลิตเริ่มดีขึ้น เวียดนามก็ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมากตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากไทยในขณะนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าในไตรมาสที่ 3 และ 4 ประเทศผู้นำเข้าข้าวจะมีคำสั่งซื้อเข้ามาบ้าง ตามวงจรการค้าข้าวปกติ
Photo : Pixabay ภาพปกไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559