บลจ.แจงผลกระทบลงทุนตุรกี กสิกรไทยเปิดพอร์ตลงแค่40%

25 ก.ค. 2559 | 12:00 น.
บลจ.กสิกรไทยฯ เผยเหตุการณ์ความไม่สงบในตุรกี ไม่กระทบกองทุนเทอมฟันด์ เปิดพอร์ตลงทุนตราสารหนี้เงินฝากระยะสั้นแบงก์ชั้นนำคุมสัดส่วนลงทุน 40% ทั้งเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐฯยํ้าความมั่นใจผู้ลงทุน มีทีมวิเคราะห์ความเสี่ยงรัดกุม พร้อมติดตามเหตุการณ์ใกล้ชิด ด้าน บลจ.กรุงไทยฯ เลี่ยงมาตลอดเหตุปัญหาความไม่สงบทางการเมือง เกิดเหตุก่อการร้ายสมํ่าเสมอ

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศตุรกี ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน โดยค่าเงินลีราของตุรกีอ่อนค่าลงทันที 5.37% นั้น กองทุนภายใต้การบริหารของ บลจ.กสิกรไทยฯ ไม่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้การลงทุนของ บลจ.กสิกรไทยฯ ในตุรกี ปัจจุบันมีการลงทุนบางส่วนในเงินฝากและตราสารหนี้ระยะสั้นของธนาคารชั้นนำในตุรกี ที่มีระดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) โดยเกือบทั้งหมดเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการ หรือเทอมฟันด์ ซึ่งมีอายุ 3 เดือน 6 เดือนและ 12 เดือน

ขณะที่กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่นำเสนอขายสำหรับผู้ลงทุนในกลุ่ม AI หรือผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง โดย บลจ.กสิกรไทยฯ มีกระบวนการพิจารณาคัดเลือกและวิเคราะห์ความเสี่ยงของตราสารและประเทศที่ลงทุนอย่างรอบคอบและรัดกุม อาทิ การกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่ตุรกีในกองทุน เทอมฟันด์ ไม่เกิน 40% ของมูลค่ากองทุน นอกจากนี้กองทุนยังมีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100% และไม่มีการลงทุนในตราสารในสกุลเงินของตุรกี เนื่องจากกองทุนจะลงทุนในรูปของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงไม่เกิดผลกระทบโดยตรงจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินตุรกีแต่อย่างใด

นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยฯได้มีการวิเคราะห์เศรษฐกิจก่อนเหตุการณ์ในครั้งนี้ ว่าตุรกีมีอัตราการเติบโตของจีดีพีที่แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 4.2% ในปี 2558 และจากการที่ค่าเงินตุรกีมีเสถียรภาพขึ้น ในปีนี้จึงคาดว่าภาคธนาคารจะยังมีผลประกอบการที่ดี ผู้ลงทุนสามารถคลายความกังวลได้ อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยฯ จะมีการติดตามสถานการณ์และประเมินเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดผลกระทบแก่ผู้ลงทุนน้อยที่สุด

ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทยฯ (KTAM) เปิดเผยว่า กองทุนตราสารหนี้ที่กำหนดอายุโครงการ และกองทุนตลาดเงิน ภายใต้การบริหารของบริษัทไม่ได้มีการลงทุนในตุรกีแต่อย่างใด เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บลจ.กรุงไทยฯ ได้พยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนในตุรกี เนื่องจากปัญหาความไม่สงบทางการเมือง รวมทั้งการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าการลงทุนในตุรกีจะให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม

การพิจารณาลงทุนในแต่ละครั้ง บริษัทจะคำนึงถึงเงินลงทุนของลูกค้าที่มอบความไว้วางใจให้กับบริษัท โดยจะต้องคัดกรองตราสารที่จะลงทุนเป็นอย่างดี บนความเสี่ยงของกองทุนที่คาดว่าลูกค้ารับได้ และมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559