ตลาดโค-เวิร์กกิ้ง สเปซแนวโน้มโตต่อเนื่อง

24 ก.ค. 2559 | 08:00 น.
นายสัญชัย คูเอกชัย รองกรรมการผู้จัดการ คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการเริ่มต้นแบ่งปันพื้นที่เพื่อการทำงานหรือที่เรียกว่า โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2548 ที่รูปแบบของโค-เวิร์กกิ้ง สเปซ เริ่มเข้ามามีบทบาทครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา หลายประเทศได้รับวัฒนธรรมการทำงานแบบที่ยืดหยุ่นเรื่องพื้นที่ทำงานนี้เข้ามา และอีกหลายประเทศมีอัตราการเติบโตขึ้นมาก จนเทียบเท่าประเทศต้นกำเนิด ปัจจุบันพื้นที่เพื่อการก่อสร้างใหม่เริ่มหายากขึ้น อาคารสำนักงานให้เช่าขนาดใหญ่ หรือพื้นที่ตึกสูงจึงมีอัตราค่าเช่าที่สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงเกิดเป็นธุรกิจ ที่จะนำเอาพื้นที่เดิมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาปรับให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นพร้อมแบ่งปันในส่วนของสาธารณูปโภคร่วมกัน อาทิ พื้นที่ใช้สอย ระบบอินเตอร์เน็ตหรือเครื่องดื่ม

[caption id="attachment_74051" align="aligncenter" width="700"] จำนวนของโค-เวิร์กกิ้งสเปซในประเทศไทย จำนวนของโค-เวิร์กกิ้งสเปซในประเทศไทย[/caption]

“ปัจจุบันพื้นที่อาคารสำนักงานในกรุงเทพฯมีทั้งสิ้น 8 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการเติบโตของธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าที่ดีต่อเนื่องทุกปี แต่กลับมีตลาดโค-เวิร์กกิ้ง สเปซ เกิดขึ้น และเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก อันมีผลกระทบไปยังผู้ประกอบการที่แบ่งพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่าขนาดเล็ก ที่จะถูกดึงส่วนแบ่งการตลาดนี้ออกไปยังผู้ประกอบการรายย่อย หรือผู้ที่มีพื้นที่เพื่อการใช้สอยที่ทิ้งไร้ประโยชน์แล้วปรับมาเป็นพื้นที่ โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ เนื่องจากปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีทางเลือกในการประกอบอาชีพ มีแนวโน้มในการตัดสินใจเริ่มธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจ SMEs หรือแม้กระทั่งปรับรูปแบบการทำงานเป็นระบบฟรีแลนซ์ที่สะดวกสบายในแง่ของการเดินทางอีกด้วย” นายสัญชัย กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,176 วันที่ 21 - 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559