แอพพลิเคชัน “ไลน์” เปิดขายหุ้นไอพีโอในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดีและศุกร์ที่ผ่านมา นับเป็นการขายหุ้นไอพีโอมูลค่าสูงสุดของบริษัทเทคโนโลยีในปี 2559
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอพพลิเคชันแชตชื่อดังของญี่ปุ่น ไลน์ เปิดขายหุ้นใหม่ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 กรกฎาคม) และตลาดหลักทรัพย์โตเกียวในวันศุกร์ (15 กรกฎาคม) เป็นจำนวนรวม 35 ล้านหุ้น ด้วยราคาขายที่ตั้งไว้ 32.84 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ไลน์จะจำหน่ายหุ้นไอพีโอในสหรัฐฯ จำนวน 22 ล้านหุ้น และในญี่ปุ่นจำนวน 13 ล้านหุ้น ขณะเดียวกัน ก็พร้อมที่จะเปิดขายเพิ่มเติมอีก 5.25 ล้านหุ้นถ้าความต้องการมีสูงกว่าที่คาดหมายไว้ โดยไลน์อาจระดมทุนได้มากถึง 1.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าขาดหุ้นเพิ่มเติมได้ทั้งหมด นับเป็นการเปิดขายหุ้นไอพีโอครั้งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่บริษัท เจแปน โพสต์ฯ ระดมทุนได้ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน และเป็นการเปิดขายหุ้นไอพีโอมูลค่าสูงสุดของบริษัทเทคโนโลยีในปีนี้ แซงหน้าทวิลิโอเมื่อปลายเดือนมิถุนายน
ไลน์ตัดสินใจเลื่อนการเปิดขายหุ้นไอพีโอออกมา หลังจากผลการทำประชามติของอังกฤษเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นจะอยู่ในสภาวะที่อ่อนไหว แต่นักลงทุนได้แสดงความสนใจต่อหุ้นของไลน์เป็นอย่างมาก ทำให้ไลน์ตัดสินใจปรับราคาเป้าหมายขึ้นจากที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี
ข้อมูลจนถึงเดือนมีนาคม 2559 ระบุว่า ไลน์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเนเวอร์ คอร์ป ของเกาหลีใต้ มีผู้ใช้บริการรายเดือนอยู่ที่ 218 ล้านคนใน 230 ประเทศและส่งข้อความใน 19 ภาษา ตลาดที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดคือญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแอพพลิเคชันไลน์ ตลอดจนในประเทศไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย
ไลน์ให้บริการส่งข้อความและโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะที่รายได้หลักของบริษัทที่แตะระดับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา มาจากการจำหน่ายเกม สติกเกอร์ และโฆษณา ข้อมูลในเอกสารยื่นขอเปิดขายหุ้นไอพีโอของไลน์เมื่อเดือนมีนาคมระบุว่า ผู้ใช้งานแอพพลิเคชันไลน์ส่งสติกเกอร์โดยเฉลี่ย 389 ล้านสติกเกอร์ต่อวัน
ไลน์รายงานผลประกอบการในปี 2558 ด้วยรายได้ 1.204 แสนล้านเยน หรือ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 40% จากรายได้ 8.67 หมื่นล้านเยนในปี 2557 และ 3.96 หมื่นล้านเยนในปี 2556 อย่างไรก็ตาม บริษัทขาดทุนสุทธิ 7.97 พันล้านเยนเมื่อปีก่อน หลังจากทำกำไรได้ 2 พันล้านเยนในปี 2557
ช่วงที่ผ่านมา ไลน์ได้พยายามขยายบริการจากเพียงการเป็นแอพพลิเคชันแชต ออกไปสู่บริการอื่นๆ อาทิ การฟังเพลงออนไลน์ โมบายเพย์เมนต์ รวมไปถึงบริการเรียกแท็กซี่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญ ซึ่งรวมถึงวอตส์แอพ ที่เฟซบุ๊กเข้ามาซื้อกิจการไปเมื่อปี 2557 และวีแชต ของเท็นเซนต์ โฮลดิงส์ ที่ครอบครองตลาดจีนอยู่ในขณะนี้
ไลน์ยื่นคำร้องขอเปิดขายหุ้นต่อสาธารณะกับตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเป็นครั้งแรกในช่วงกลางปี 2557 แต่ตัดสินใจระงับแผนการดังกล่าวไว้ในปีถัดมา โดยอ้างเหตุผลของความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งนี้ เมื่อเปิดขายหุ้นไอพีโอแล้ว เนเวอร์ คอร์ป บริษัทแม่ของไลน์จะยังคงถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนประมาณ 83%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,175 วันที่ 17 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559