การเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา การถูกการเปลี่ยนแปลงถาโถมเข้ามาเปรียบเสมือนเรายืนอยู่ริมฝั่งและมีคลื่นยักษ์ถาโถมเข้ามาจะทำให้เราเหนื่อยมากกับกระแสคลื่นที่พัดมาหาเรา
แต่ถ้าเราออกไปในจุดที่คลื่นก่อตัวและเราสามารถมีเครื่องมือที่ทำให้เรายืนอยู่บนยอดคลื่นของการเปลี่ยนแปลงและนำเอาแรงของคลื่นมาเป็นแรงส่งให้เราไปในจุดที่เราอยากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เราจะสนุกมากกับการยืนอยู่บนยอดคลื่นของการเปลี่ยนแปลงนั้น
การยืนอยู่บนยอดคลื่นของการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องมีกระบวนการกระหายอันได้แก่ H-U-N-G-R-Y อันได้แก่
H-Have a paradigm shift
กรอบความคิดเป็นตัวกำกับการที่เรามองสิ่งต่างๆเปรียบเสมือนแว่นตาที่เราใส่ในการมองโลก การมองการเปลี่ยนแปลงอย่างเท่าทันจำเป็นที่จะต้องมีการปรับกรอบความคิดในการมองสิ่งต่างๆอย่างที่มันเป็นจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากมองหรือเคยชินที่จะมอง
มุมมองของลูกค้าเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการมองโลกเพราะลูกค้าอาจจะมองในสิ่งที่ไม่เหมือนเรามองก็ได้ จริงๆแล้วลูกค้าคนสำคัญของเราเป็นคนที่จะให้ข้อมูลเราดีที่สุดว่าธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงที่มากระทบเขาและทำให้เขาต้องการสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากที่เราเคยให้นั้นเป็นอย่างไร
หลายองค์กรชั้นนำมักจะให้ลูกค้ากลุ่มสำคัญที่ให้คุณค่าและยอดขายกับเราถึง 80% ซึ่งมักจะเป็นลูกค่าที่มีจำนวนเพิ่ม 20 รายใหญ่ๆมาให้ข้อมูลสะท้อนกลับมาหาองค์กรโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อมูลของสินค้าและบริการ ถ้าเราสามารถได้มุมมองของการเปลี่ยนแปลงจากเขาได้อย่างทันท่วงทีเพราะปกติแล้วลูกค้ากลุ่มนี้มักจะได้รับข้อมูลของคู่แข่งคนสำคัญของเราอยู่เสมอๆซึ่งอาจเป็นตัวจักรสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบกับเรา
ถ้าลูกค้ากลุ่มนี้มีความต้องการใหม่ที่ทำให้เรายืนอยู่บนยอดคลื่นของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันเวลาและทันเหตุการณ์แล้วละก็ เราก็สร้างบทบาทตัวเราเองในการเป็นผู้นำเพื่อสร้างคลื่นใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงก่อนคนอื่น และถ้าเรามีสินค้าและบริการที่ทำให้เรายืนอยู่บนยอดคลื่นด้วยความสนุกด้วยแล้วการเปลี่ยนแปลงก็จะสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับทีมเราและลูกค้าคนสำคัญของเราอย่างแน่นอน
ผู้เขียนเคยทำกระบวนการเข้าใจความต้องการของลูกค้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งคนสำคัญโดยทีมอาจารย์จะเป็นผู้ Facilitate องค์กรความรู้นั้นในขณะเดียวกันก็มีทีมนักขายและนักการตลาดตลอดจนมีผู้ผลิตสินค้าและบริการก็เฝ้ามองผ่านการถ่ายทอดสดในอีกห้องหนึ่งทำให้คนสำคัญที่เกี่ยวข้องในองค์กรสามารถปรับกรอบความคิดได้ทันโดยไม่ต้องสื่อสารอีกหลายขั้นตอน
U-Unconscious Incompetencies
การไม่รู้จักตัวเองว่าไม่รู้อะไรเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวในการเท่าทันการเปลี่ยนแปลง หลายองค์กรจะติดกับดักของความสำเร็จทำให้ฟังแล้วอาจจะไม่ได้ยิน สภาวะนี้บางคนจะเปรียบเทียบว่าเป็นสภาวะของน้ำชาเต็มแก้วแม้จะให้อะไรก็ล้นออกมาหมด การไม่เท่าทันการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งจะติดกับดักของความสำเร็จอันนี้
การรู้จักตัวเองว่าไม่รู้อะไรจะเป็นก้าวสำคัญในการกระหายความรู้ เพราะถ้าเรารู้ว่าเราไม่รู้อะไรเราก็จะเริ่มรับฟังและจะมีกระบวนการในการขนขวางหาความรู้ การเรียนรู้มาจากหลายมิติบางครั้งบางองค์กรจะหาจุดเปรียบเทียบความสามารถกับองค์กรที่อยู่คนละภาคอุตสาหกรรมเพื่อค้นหาวิธีการใหม่ๆในมุมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนและการเปลี่ยนนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมา
ผู้เขียนเคยเป็นที่ปรึกษากับให้กับบริษัทชั้นนำในประเทศหลายบริษัทที่กระหายการเรียนรู้และมักจะสนุกกับการวัดผลไม่เฉพาะในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่จะแสวงหาองค์กรในกระบวนการที่คล้ายคลึงกันเพื่อสร้างสรรค์ความสามารถสูงสุดร่วมกันหรือที่เรียกว่า Best Practices
บางองค์กรมักจะมีปัญหาเรื่องการขนส่งของจากโรงงานไปสู่ลูกค้า มีหลายองค์กรตั้งทีมเพื่อค้นหาว่าองค์กรชั้นนำในการทำ Logistics เขาทำอย่างไรกันหรือแม้แต่พิซซ่า เขาสัญญาว่าจะส่งมอบภายใน 30 นาทีได้อย่างไร การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาเป็นทักษะที่ทีมงานจะต้องสร้างเป็นค่านิยมใหม่ให้ทั้งสายพานการผลิตมีความกระหายที่จะเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
ในคราวหน้าเราคงมาดูการสร้างความเชื่อใหม่ การสร้างพิมพ์เขียว การเข้าใจต่อมสุขใจขององค์กรตลอดจนการมีความเป็นองค์กรที่หนุ่มสาวอยู่เสมอเพื่อเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,174 วันที่ 14 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559