ค้าชายแดนไทย-เมียนมาคึก ครึ่งปีหลังรัฐบาลหนุนฉุดระนอง-แม่สอด-เชียงรายยอดพุ่ง

ค้าชายแดนไทย-เมียนมาคึกคัก หลังรัฐบาลหนุนขยายการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ระนองคาดครึ่งปีหลังทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก1.3 หมื่นล้านเผย ได้อานิสงส์โครงการพัฒนาทางตอนใต้ โดยสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และวัสดุก่อสร้างเป็นกลุ่มที่มีอัตราการขยายตัวสูงด้านแม่สอดคาด ครึ่งหลังทะลักเกือบแสนล้าน เหตุโครงสร้างพื้นฐานช่วยเสริม-เศรษฐกิจเมียนมาดีขึ้นหลังเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ส่วนเชียงราย เป้าทั้งปี 5 หมื่นล้าน

นางสุดาพร ยอดพินิจ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่าหลังจากที่รัฐบาลประกาศขยายการค้าระหว่างไทยกับเมียนมาเพิ่มมากขึ้นในปี 2559 นี้ คาดว่าจะส่งผลดีช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ามูลค่าการค้าจะทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในหลายกลุ่มสินค้า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกด้านอื่นๆ โดยเฉพาะอานิสงส์จากท่าเรือน้ำลึกทวายที่จะเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวการค้าไทย-เมียนมาทางตอนใต้อีกหลายเท่าตัว

โดยมูลค่าการค้าขายจากการรวบรวมของศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา จ.ระนอง และศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียนพาณิชย์จังหวัดระนอง ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2559 (มกราคม-มิถุนายน) มูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาประมาณ 20% โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น, ปูนซีเมนต์,เครื่องดื่มให้พลังงาน, เครื่องดื่มต่างๆ, ตาข่ายจับปลา, น้ำตาลทราย, กาแฟสำเร็จรูป, ผงชูรส, ขนมอบกรอบ เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญได้แก่สัตว์น้ำ, ปลาป่น, ปลาหมึกแช่แข็ง,หอยแครงมีชีวิต, ปลาเบญจพรรณ, ถ่านไม้ป่าเลน, ปูเค็ม, ปูทะเลสด, กุ้ง, กั้ง เป็นต้น

อย่างไรก็ดีการค้าชายแดนไทย-เมียนมาด้าน จ.ระนอง-เกาะสองที่ผ่านมา มีมูลค่าการค้าขายประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนในปัจจุบันพบว่าการค้าระหว่างกันมีการขยายตัวเพิ่มเป็น 1,500-2,000 ล้านบาทในแต่ละเดือน อีกทั้งขณะนี้ทางการเมียนมามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเป็นอย่างเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต รวมถึงโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ จังหวัดเกาะสอง ทำให้วัสดุก่อสร้าง เหล็ก, ปูนซีเมนต์ขยายตัวเพิ่มกว่า 3 เท่าตัว

"ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวบริษัทวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ เตรียมเข้ามาเปิดสาขาใน จังหวัดระนอง เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสินค้าประเภทเชื้อเพลิงที่พบว่าทางเมียนมามีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับสินค้าอุปโภค-บริโภคที่พบว่ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30%"

ขณะที่ นายวิศวะ ปิติสุขสมบัติ นายด่านศุลกากรแม่สอด จังหวัดตาก แจ้งถึงมูลค่าการค้าชายแดนด่านศุลกากรแม่สอด-เมียวดี ในครึ่งแรกของปี 2559 ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2559 ว่า มูลค่าการค้าชายแดน 6 เดือนแรก ปี 2559 ประมาณ 3.85 หมื่นล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2558 ประมาณ 12% หรือ 3.22 หมื่นล้านบาท และในจำนวน 6 เดือนนี้พบว่าช่วงเดือนพฤษภาคม 2559 มีมูลค่าส่งออกมากสุดถึง 7,492 ล้านบาท เป็นช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้มีการซื้อ-ขายสินค้าจำนวนมาก ทั้งนี้สาเหตุมาจากเส้นทางคมนาคมสะดวกขึ้น รถบรรทุกวิ่งไป-มา ได้ทุกวัน การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการบริหารงานของรัฐบาลใหม่เมียนมาคาดว่าครึ่งปีหลังมูลค่าการค้าชายแดนจะมีเกือบ 1 แสนล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า สินค้า 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1. น้ำตาลทราย 2.โทรศัพท์พร้อมอุปกรณ์ 3.เครื่องดื่มน้ำอัดลม 4.เบียร์ 5.เครื่องดื่มบำรุงกำลัง 6.ผ้าพิมพ์ฝ้าย 7.เครื่องจักรการเกษตรที่มีทั้งเครื่องเก็บและนวดผลผลิตการเกษตร 8.รถจักรยานยนต์ 9.น้ำมันเชื้อเพลิง 10.โทรทัศน์ โดยสินค้านำเข้าส่วนมากเป็นสินค้าภาคเกษตร เช่นโค-กระบือ -พลวงออกไซด์ สิ่งประดิษฐ์ทำด้วยไม้- แร่พลวง-สินค้าเก่า -ของเก่า

ด้านดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนภาพรวมปี 2559 ทั้งปี มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นกว่าปี 2558 ประมาณ 10% ขณะที่ปี 2558 มูลค่าการค้าชายแดนอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,173 วันที่ 10 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559