สหพัฒน์โอ่ยอดครึ่งปีแสนล้านจับมือผู้นำแฟชั่นญี่ปุ่นบุกตลาดไฮเอนด์ก่อนปูพรมอาเซียน

04 ก.ค. 2559 | 06:00 น.
สหพัฒน์ จับมือ เวิลด์ ผู้นำแฟชั่นประเทศญี่ปุ่น นำดีไซเนอร์แบรนด์อันดับ 1 “ทาเคโอะ คิคูชิ” บุกตลาดไฮเอนด์ไทย เล็งนำแบรนด์ผู้หญิงอื่นทำตลาดเพิ่มก่อนปูพรมอาเซียน ด้าน “เสี่ย” พอใจเครือสหพัฒน์โต 3-4%ยอดขายครึ่งปีแรกแสนล้าน

[caption id="attachment_67172" align="aligncenter" width="330"] บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา
ประธานเครือสหพัฒน์[/caption]

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมทุนกับบริษัท เวิลด์ จำกัด ผู้นำธุรกิจเสื้อผ้าและแฟชั่นจากประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท เวิลด์ สหแฟชั่น จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดยกลุ่มสหพัฒน์ถือหุ้นสัดส่วน 51% แบ่งเป็นการลงทุนโดยบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 15% บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 19% และส่วนที่เหลือเป็นบริษัทย่อยในเครือสหพัฒน์ ส่วนกลุ่มเวิลด์ลงทุนสัดส่วน 49% เพื่อนำเข้าและทำตลาดแบรนด์แฟชั่นผู้ชาย ทาเคโอะ คิคูชิ (Takeo Kikuchi)

ปัจจุบันเครือสหพัฒน์ไม่มีแบรนด์สินค้าระดับไฮเอนด์ และแบรนด์ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากซีกตะวันตก อาทิ แบรนด์แด๊กซ์ จากประเทศอังกฤษ แบรนด์ลาคอส จากฝรั่งเศส และแบรนด์แอร์โรว์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแบรนด์ใหม่นี้เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเรื่องสูท รองจากแบรนด์อิเซมิยาเกะ สำหรับการทำตลาดในประเทศไทยระยะแรกยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่ายซื้อสินค้าแฟชั่น บริษัทจึงวางเป้าหมายการทำตลาดโดยไม่ให้ขาดทุน

“การทำตลาดช่วงแรกจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยทางญี่ปุ่นไม่ได้ตั้งเป้าหมายสูง เพราะเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ดี แค่ตั้งเป้าหมายทำให้สำเร็จ ทำให้อยู่ได้และไม่ขาดทุน ซึ่งสินค้าจะจับกลุ่มเป้าหมายคนเมืองและคนทำงานเป็นหลัก อายุ 20-40 ปี โดยราคาในญี่ปุ่นถ้าเป็นชุดสูทเริ่มต้นระดับหมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งนอกจากมีสินค้าผู้ชายแล้วทางญี่ปุ่นยังมีแบรนด์ผู้หญิงด้วย แนวทางการทำตลาดจะทำร่วมกับทางญี่ปุ่น เบื้องต้นช่วงต้นปีหน้า วางแผนขายในร้านที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า และวางแผนขยายสาขา 6-8 แห่งต่อปี”

สำหรับผลการดำเนินงานของเครือสหพัฒน์ช่วงครึ่งปีแรก สามารถสร้างการเติบโตได้ 3-4% หรือมียอดขายทั้งกลุ่มประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นพอใจกับผลการดำเนินงาน เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันบริษัทจึงไม่ได้ตั้งเป้าหมายสูง และตลอดทั้งปีพยายามทำยอดขายให้เติบโตในอัตรา 5% ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น จากการที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณลงทุน ขณะที่กำลังซื้อระดับรากหญ้าถือว่าไม่ตกต่ำไปกว่านี้แล้ว เพราะปัจจุบันถือว่าอยู่ในภาวะต่ำที่สุดแล้ว

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มธุรกิจที่สร้างการเติบโตให้กับเครือสหพัฒน์เป็นกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องใช้ภายในบ้าน เนื่องจากผู้บริโภคไม่ได้ประหยัดเงินในส่วนนี้ แต่ธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้าไม่เติบโต และมีบางแบรนด์ที่ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้าลดน้อยลง แต่การลงทุนในธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นของเครือสหพัฒน์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการทำธุรกิจ เพราะในช่วงเศรษฐกิจที่ดีไม่ใช่ช่วงเวลาของการลงทุนที่ดี เนื่องจากปัจจุบันคู่แข่งมีน้อย และไม่ถูกตั้งเป้าหมายสูงจากเจ้าของแบรนด์ จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำแบรนด์ ประกอบกับญี่ปุ่นมีโนว์ฮาวน์ในธุรกิจแฟชั่นด้วย

ด้านนายเคนจิ คามิยามา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า แบรนด์ทาเคโอ คิคูชิ ถือว่ามียอดขายสูงสุดของบริษัทในกลุ่มแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย ด้วยยอดขาย 1.3 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 4,470 ล้านบาท เบื้องต้นจะนำสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาด และบางส่วนจะใช้บริษัทในเครือสหพัฒน์ผลิต ซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นมีแบรนด์จำหน่าย 70 แบรนด์ เป็นแบรนด์สินค้าผู้หญิง 80% และแบรนด์ผู้ชายสัดส่วน 20% ซึ่งในอนาคตจะนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดด้วย

“การเข้ามาร่วมทุนกับเครือสหพัฒน์ เป็นเพราะตลาดแฟชั่นไทยยังมีการพัฒนา คนรู้จักแฟชั่น และรักการแต่งตัว มองว่าตลาดเอเชียมีประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ตลาดในประเทศไทยจึงยังมีศักยภาพ สามารถสร้างความสำเร็จกับสหพัฒน์ได้ ซึ่งบริษัทไม่ได้มองแค่ตลาดในประเทศไทยเท่านั้น ยังมองตลาดในประเทศอื่นๆ ของอาเซียนด้วย ที่จะขยายต่อไปในอนาคต”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,171 วันที่ 3 - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559