อนาคตธุรกิจปั้มน้ำมันส่อเค้าวุ่น l วิชัย สุวรรณบรรณ

27 มิ.ย. 2559 | 13:09 น.
เมื่อประมวลดูแผนการผลิตรถของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกเกือบทุกบริษัท จะเห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์จะเริ่มนำรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (EV) ขายตลาดมวลชนอย่างจริงจังตั้งแต่ปีพ.ศ. 2560 และเมื่อดูวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัทรถยนต์ พบว่าส่วนใหญ่จะเดินหน้าเข้าสู่รถขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือรถไร้คนขับโดยพลังขับเคลื่อนมาจากไฟฟ้าและพลังอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน

ประเทศที่คาดว่าจะมีสัดส่วนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากคือประเทศจีน สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่าจีนมียอดการจำหน่ายรถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามากที่สุดในโลก โดยในปีที่แล้วขายได้ 188,000 คันขณะที่สหรัฐอเมริกาขายได้ 116,000 คัน และบริษัทที่ผลิตและขายรถไฟฟ้าได้มากที่สุดไม่ใช่เทสลา แต่เป็นบริษัท บีวายดี ของจีนขายได้ 62,000 คัน

ในปีพ.ศ. 2559 นี้ บีวายดี คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มมากขึ้นหนึ่งเท่าตัว ขณะที่มีสตาร์ตอัพผลิตรถไฟฟ้าขายในจีนเปิดตัวขึ้นใหม่หลายบริษัทเพื่อบุกตลาดนี้ โดยสาเหตุที่จีนกำลังเป็นตลาดของรถไฟฟ้าใหญ่ที่สุดของโลกเนื่องจาก รัฐบาลจีนต้องการแก้ปัญหามลภาวะอากาศ ที่สร้างความอับอายให้กับเกียรติภูมิของประเทศอย่างมาก ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงประกาศหนุนรถไฟฟ้าอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน ทั้งบริษัทเทสลา บริษัทจีเอ็มมอเตอร์ ประกาศออกรถไฟฟ้ารุ่นขายมวลชน ในปีพ.ศ. 2560 ทั้งคู่ โดยเทสลาเปิดให้แฟนคลับจองเทสล่า 3 ล่วงหน้าค่ามัดจำ 1,000 ดอลลาร์ ปรากฎว่ายอดจองทะลุไป 400,000 คันแล้ว ขณะที่จีเอ็ม ประกาศว่าเตรียมโรงงานผลิต จีเอ็มโบลท์ ไว้ 50,000 คันต่อปี และประมาณว่ายอดขายจะอยู่ระหว่าง 50,000-80,000 คัน โดยบลูมเบิร์กรายงานว่ารถไฟฟ้า ทั้งรถส่วนบุคคล รถเมล์ มอเตอร์ไซด์ขายได้ 1.3 ล้านคันในปีพ.ศ. 2558 และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป สัดส่วนของรถไฟฟ้าบนท้องถนนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนรถยนต์รวมมอเตอร์ไซด์ ใช้ระบบเครื่องยนต์แบบสันดาปภายในที่ใช้น้ำมันและก๊าซเป็นพลังงานจะเริ่มลดลงไปเรื่อย ๆ

หมายความว่าในอนาคตจะมีรถยนต์เข้าปั๊มเติมน้ำมันน้อยลง เนื่องจากรถไฟฟ้าสามารถชาร์จไฟได้หลายที่ ทั้งที่บ้าน ที่จอดรถ ห้างสรรพสินค้า ที่ทำงาน อู่รถ ฯลฯ อย่างนี้แล้วระยะยาวย่อมเกิดปัญหาขึ้นกับปั้มน้ำมันบ้านเราทันที เพราะปั้มน้ำมันปรกติได้กำไรจากการขายน้ำมันน้อยไม่คุ้มทุนอยู่แล้ว จึงต้องทำธุรอสังหาฯ และค้าปลีกไปด้วย คือการทำเป็นที่พักรถมีร้านรวงขายมากมายเก็บรายได้จากค่าเช่าที่ บางรายทำร้านกาแฟ ร้านอาหารเองเพื่อให้คุ้มค่าลงทุน

ถ้าในอนาคต รถยนต์เข้าปั๊มเติมน้ำมันน้อยลงไปเรื่อย ๆ นอกจากน้ำมันจะขายได้น้อยแล้ว ทราฟฟิกของคนก็น้อยลงไปด้วย ทำให้ร้านรวงต่าง ๆ อาจจะอยู่ไม่ได้ ค่าเช่าที่เคยได้อาจจะเหือดหายไปกลายเป็นธุรกิจซันเซ็ทเหมือนสื่อสิ่งพิมพ์ในขณะนี้ได้

เมื่ออนาคตจะเป็นเช่นนี้แล้ว บรรดาเจ้าของปั้มน้ำมันทั้งหลายคิดอ่านประการใดก็เริ่มคิดได้ ไม่ต้องรีบเพราะมีเวลาอีกหลายปี แต่ไม่คิดไม่ได้นะครับ