หวัง3แสนตันขายข้าวแอฟริกา ถกจีทูจีจีนล้านตันเจอเลื่อนอีก

17 มิ.ย. 2559 | 03:00 น.
ปลัดพาณิชย์เล็งเป้า 3 แสนตันขายข้าวให้แอฟริกาใต้-โมซัมบิก หวังช่วยลดภาระสต๊อกข้าวเก่ารัฐบาล ด้านผู้ส่งออกมองตลาดแอฟริกายังไม่ฟื้นเท่าที่ควรห่วงขายข้าวโมซัมบิกมีปัญหาจ่ายเงิน แต่มั่นใจไปรอบนี้มีออร์เดอร์ติดมือกลับมาจากเป็นประเทศที่นิยมข้าวเก่า ด้านเจรจาข้าวจีทูจีไทย-จีน 1 ล้าน รอบ 17 มิ.ย.นี้เจอโรคเลื่อน จากบิ๊ก 2 ฝ่ายติดภารกิจ

[caption id="attachment_62699" align="aligncenter" width="700"] การระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล การระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล[/caption]

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึง การระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ว่ากรมฯ จะเน้นการขายทั้งแบบประมูลทั่วไป และการขายในรูปแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี เพื่อลดปริมาณสต๊อกที่ยังเหลืออยู่กว่า 10 ล้านตัน โดยในเดือนกรกฎาคมนี้นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์และคณะ จะเดินทางไปประเทศแอฟริกาใต้และโมซัมบิก เพื่อเจรจาขายข้าวจีทูจี วางเป้าไว้ที่ 3 แสนตันและยังจะมีแผนขายข้าวจีทูจีให้กับอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ด้วย ส่วนจีน จะเร่งผลักดันการส่งมอบข้าวตามสัญญาจีทูจีในสัญญาใหม่ 1 ล้านตันโดยเร็ว

“ล่าสุดกรมได้เปิดประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐ ปริมาณกว่า 2.24 ล้านตัน เบื้องต้นมีเอกชนยื่นซองเอกสารประมูล 69 ราย โดยจะประกาศผลผู้เสนอซื้อที่ผ่านคุณสมบัติ และเปิดรับซอง และเปิดซองประมูลในวันที่ 15 มิถุนายน มั่นใจว่าข้าวที่นำออกประมูลในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการค้าข้าว ผู้ส่งออก และโรงสี และจะไม่กระทบกับราคาข้าวในตลาด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ประกอบกับตลาดโลกยังมีความต้องการข้าวอีกเป็นจำนวนมาก”

นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงทิศทางตลาดข้าวในแอฟริกาซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของไทยว่า ยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเนื่องจากหลายประเทศเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน ทำให้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ดังนั้นประเทศที่มีการสั่งซื้อข้าวจากไทย โดยเฉพาะไนจีเรียซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าข้าวรายใหญ่ยังละชอการนำเข้า

ส่วนการเดินทางเพื่อไปเจรจาขายข้าวกับให้กับแอฟริกาใต้และโมซัมบิกปริมาณ 3 แสนตันของคณะปลัดกระทรวงพาณิชย์นั้น ถ้ามีโอกาสก็จะเดินทางร่วมคณะไปด้วย และมั่นใจว่าน่าจะมีออเดอร์กลับมา เพราะ 2 ประเทศนี้นิยมบริโภคข้าวเก่า แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือเรื่องการชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องดูว่าเงื่อนไขในการชำระเงินว่าเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่เพราะในอดีตประเทศเหล่านี้เคยมีปัญหา

ด้านนางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ (พณ.)กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจา ข้าวจีทูจีไทย-จีนที่ยังรอการเจรจาเพื่อลงนามสัญญาซื้อขายอีก 1 ล้านตันจากจำนวนทั้งหมด 2 ล้านตัน(ส่งมอบไปแล้ว 1 ล้านตัน) ตามที่ได้ลงนามร่วมกันว่าจีนจะซื้อข้าวจากไทยภายใต้บันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในกรอบความร่วมมือโครงการรถไฟไทย-จีน สายกรุงเทพ-แก่งคอย-มาบตาพุด ล่าสุดจีนได้ขอยกเลิกการเจรจารอบใหม่ที่กำหนดไว้ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ออกไปก่อน เนื่องจากรัฐมนตรีหัวหน้าคณะฝ่ายจีนติดภารกิจ เช่นเดียวกับฝ่ายไทยที่มีภารกิจร่วมงาน CLMVT Forum ในช่วงดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้นการเจรจารอบใหม่จะมีขึ้นอีกใน 1 เดือนข้างหน้ากำลังรอกำหนดวันเวลาที่เหมาะสมแต่จะเป็นการเดินทางไปเจรจาที่ประเทศจีน

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการเรียกค่าเสียหายในคดีทุจริตขายข้าวจีทูจีมูลค่าความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท กรมฯได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้ตีความแล้วว่าใครเป็นผู้ที่ต้องทำหนังสือเรียกค่าเสียหายขณะนี้กำลังรอเลขาธิการกฤษฎีกาทำหนังสือตอบกลับมา ซึ่งหากได้คำตอบ จะแจ้งให้ผู้ที่ถูกกล่าวหามาชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,166 วันที่ 16 - 18 มิถุนายน พ.ศ. 2559