กัมพูชาส่ง‘เมด’ไปมาเลย์ ‘นาจิบ’ คุย ‘ฮุนเซ็น’ ฟื้นโครงการส่งแรงงานสตรี
กัมพูชา พร้อมส่งแรงงานหญิงไปทำงานรับใช้ในบ้านในประเทศมาเลเซียหลังจากหยุดส่งไปนานกว่า 4 ปี เผย “ฮุนเซ็น” เจรจา “นาจิบ” เร่งสานสัมพันธ์ 2 ประเทศทั้งการลงทุน การค้าและการศึกษา
หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์รายงานว่านายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮุนเซ็น ได้เสนอฟื้นการส่งแรงงานหญิงมาทำงานรับใช้ในบ้านที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ที่เมืองปุตราจายา
การพบปะของ 2 ผู้นำประเทศเกิดขึ้นระหว่างที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซ็น เยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ 4 วัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่านายนาจิบ ได้ตอบรับข้อเสนอของนายฮุนเซ็น โดยกล่าวว่า “ทางกัมพูชาได้เสนอให้มีการอนุญาตให้ชาวกัมพูชาเข้ามาทำงานในมาเลเซีย ซึ่งเราตอบรับด้วยความยินดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนงานหญิงที่ทำงานในบ้าน” และยังได้แถลงข่าวร่วมกับนายฮุนเซ็น ด้วยว่า “เราจะดำเนินการร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาโดยเร็วเพื่ออนุญาตให้มีชาวกัมพูชามาทำงานเพิ่มขึ้นในงานรับใช้ในบ้าน”
เดอะสตาร์ระบุว่า การตกลงครั้งนี้ถือว่าเป็นการฟื้นการส่งแรงงานหญิงจากกัมพูชาให้กลับมาทำงานรับใช้ในบ้านในมาเลเซีย ได้อีกครั้ง หลังจากหยุดไปตั้งแต่ปี 2554 เนื่องจากคนงานหญิงชาวกัมพูชาได้กล่าวหาว่านายจ้างชาวมาเลย์ทรมานและล่วงละเมิดลูกจ้างชาวกัมพูชาทำให้รัฐบาลกัมพูชาสั่งหยุดการส่งแรงงานหญิงทันทีในขณะนั้น
เดอะสตาร์รายงานว่าการพบปะระหว่างนายฮุนเซ็นและนายราจิบนอกจากเรื่องแรงงานแล้ว มีการตกลงเร่งความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ระหว่างกันด้วยโดยสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศอยู่ในสภาพนิ่งเงียบมาหลายปี และมีรายงานว่ายอดเงินลงทุนของมาเลเซียในกัมพูชา คงค้างอยู่ที่ 4,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 154,800 ล้านบาท)
สมเด็จฮุนเซ็น ได้กล่าวระหว่างการเจรจาว่าต้องการให้นักลงทุนมาเลย์ ไปลงทุนในภาคเกษตรของกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกและขายข้าว การก่อสร้างและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และอยากให้ชาวกัมพูชาทำงานและได้ทุนการศึกษาในมาเลเซีย
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้สัมภาษณ์สื่อในการแถลงข่าวร่วมว่านอกจากทางด้านเศรษฐกิจแล้วทั้ง 2 ฝ่ายยังได้ตกลงกันในเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์โดยจะให้กระทรวงกิจการสตรีของกัมพูชาและกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซียเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน
นายกฯ ราจิบ กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นเพื่อเร่งความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศให้เดินหน้าไปโดยเร็ว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,164 วันที่ 9 - 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559