ซัมซุงจับมือบริการอาลีเพย์ ลุยชิงเค้กตลาดเพย์เมนต์จีน

ซัมซุง อิเล็คโทรนิคส์ ประกาศความร่วมมือกับ อาลีเพย์ บริการโมบายเพย์เมนต์ในเครืออาลีบาบา หวังขยายฐานผู้ใช้บริการเพย์เมนต์ของตนเองในตลาดจีน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากนี้ไปผู้ใช้งานบริการโมบายเพย์เมนต์ของซัมซุง หรือซัมซุงเพย์ (Samsung Pay) ในประเทศจีน จะสามารลิงก์เข้ากับแอกเคาต์อาลีเพย์ (Alipay) ของตนเอง และชำระเงินในระบบของอาลีเพย์ผ่านแอพพลิเคชันซัมซุงเพย์ได้ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดของร้านค้าตามปกติ

ซัมซุงหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาเข้าใช้บริการอาลีเพย์ผ่านซัมซุงเพย์ ซึ่งเป็นการช่วยขยายฐานผู้ใช้งานบริการโมบายเพย์เมนต์ของตนเอง ในเวลาที่กำลังแข่งขันกับแอปเปิลเพื่อเจาะตลาดจีน

ซัมซุงเปิดให้บริการซัมซุงเพย์ในจีนเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่แอปเปิลนำบริการแอปเปิลเพย์เข้ามารุกตลาดจีนก่อนหน้าซัมซุงเพียง 5 สัปดาห์ โดยทั้งคู่กำลังแข่งขันเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดโมบายเพย์เมนต์ที่มีบริการท้องถิ่น คือ อาลีเพย์และเทนเพย์ (Tenpay) ซึ่งเป็นบริการในเครือเทนเซ็นต์ ครองตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 70% จากการประเมินของมาร์บริดจ์ คอนซัลติ้ง
อินจง รี รองประธานบริหารของซัมซุง อิเล็คโทรนิคส์ กล่าวว่า ซัมซุงจะทำงานร่วมกับอาลีเพย์เพื่อขยายบริการซัมซุงเพย์ในจีน ขณะที่ ฟาน ซี่หมิง ประธานธุรกิจเพย์เมนต์ของแอนต์ ไฟแนนเชียล เจ้าของบริการอาลีเพย์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบา ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน กล่าวว่า การผนวกเทคโนโลยีเข้ากับซัมซุง จะทำให้กระบวนการทำธุรกรรมรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น เมื่อผู้ใช้ชำระเงินตามร้านค้าต่างๆ ที่รองรับบริการอาลีเพย์

บริการเพย์เมนต์ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความแตกต่างให้กับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน และอาจมีบทบาทสำคัญสำหรับซัมซุงในการรุกตลาดจีน โดยในไตรมาสแรกของปี ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้มีส่วนแบ่งตลาดในจีนลดลงเหลือเพียง 7% จาก 10% ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าโมบายเพย์เมนต์อาจช่วยพลิกผันแนวโน้มดังกล่าวได้

"โมบายเพย์เมนต์ช่วยเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคในกลุ่มที่มีรายได้สูงขึ้นในตลาดอุปกรณ์โมบาย ดังนั้นการมีบริการโมบายเพย์เมนต์อยู่ในสมาร์ทโฟนไม่เพียงแต่เป็นหนทางสู่ความสำเร็จ แต่ยังเป็นหนทางที่สำคัญอย่างยิ่ง" นีล มอว์สตัน นักวิเคราะห์จากสแทรทิจี อนาไลติกส์ ให้ความเห็น

อย่างไรก็ตาม ไมเคิล โหย่ว นักวิเคราะห์จากไอดีซี กลับมองว่า การจับมือกันระหว่างซัมซุงและอาลีเพย์จะไม่ใช่การเปลี่ยนเกม และไม่น่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานซัมซุงเพย์ได้ "สำหรับผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือที่ใช้บริการซัมซุงเพย์ได้อยู่แล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ไปจากเดิมมากนัก มันเพียงหมายความว่าบริการอาลีเพย์จะใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยโดยไม่ต้องเข้าไปในแอพพลิเคชันอาลีเพย์ อาจจะแค่เลื่อนหน้าจอลดลง 1 หรือ 2 ครั้ง"

ทั้งนี้ปัจจุบัน อาลีเพย์มีผู้ใช้บริการราว 450 ล้านคน และมีการทำธุรกรรม 170 ล้านครั้งต่อวัน นับเป็นบริการเพย์เมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ขณะที่ซัมซุงเพย์มีผู้ใช้งานอยู่ในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้กว่า 5 ล้านคน โดยมีการทำธุรกรรมผ่านบริการดังกล่าวในเกาหลีใต้แล้วประมาณ 1 ล้านล้านวอนหลังจากเปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีก่อน

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,160 วันที่ 26 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559