LG ลงทุน 5 หมื่นล้าน ตั้งโรงงานใหญ่ที่เมืองท่าไฮฟองของเวียดนาม
นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก ประกาศว่ารัฐบาลและทางการเมืองไฮฟอง อนุมัติโครงการลงทุนของบริษัท แอลจีฯ ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้ มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 54,000 ล้านบาท) เพื่อขยายกิจการในเวียดนาม
นายฟุก กล่าวในพิธีเปิดเขตการผลิตสินค้าจอภาพเทคโนโลยี โอเลด (OLED) ซึ่งเป็นจอภาพเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด ที่เมืองไฮฟองว่า รัฐบาลกลางและทางการท้องถิ่นของไฮฟอง มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการลงทุนจากแอลจี โดยลดปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การลงทุน
นายกฯ ฟุกกล่าวว่า การลงทุนมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ของแอลจี เป็นการลงทุนจากต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไฮฟอง โดยเป็นการลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีเทคโนโลยีสูง โดยโครงการของแอลจีจะใช้พื้นที่ 40.5 เฮกตาร์ (ประมาณ 253.125 ไร่) ในนิคมอุตสาหกรรมจางเซะ (Trang Due Industrial Park) ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษดิ่งวู-แคทไฮ ในเมืองไฮฟอง ซึ่งเป็นเมืองท่าทางเหนือของเวียดนาม
เวียดนามนิวส์ระบุว่านายกรัฐมนตรีฟุก ช่วยผลักดันให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นได้โดยการสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นของเมืองระหว่างการดำเนินโครงการ เพื่อให้โครงการลงทุนดำเนินไปภายใต้กฎระเบียบและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอย่างราบรื่นมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
โรงงานของแอลจี มีกำหนดเปิดการผลิตการผลิตต้นปี 2560 และช่วยสร้างงานให้กับคนในท้องที่ 6,000 คนโดยผลผลิต 20 % ของจอโอเลด จะขายในประเทศขณะที่ 80 % ของผลผลิตเพื่อการส่งออก
โฆษกของบริษัท ไซง่อน-ไฮฟอง อินดัสเตรียลปาร์กจอยสต๊อคคัมปะนีฯ ผู้ดำเนินงาน นิคมอุตสาหกรรมจางเซะ ระบุว่า โครงการผลิตจอโอเลดของแอลจี นั้นทำให้บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อใช้ในการประกอบจอทีวีจากเกาหลีใต้และประเทศอื่นรวม 27 บริษัทตามเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมจางเซะด้วยมีทุนจดทะเบียนรวม 731 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 26,316 ล้านบาท)
เวียดนามนิวส์ระบุว่าเกาหลีใต้เป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนามโดยเกาหลีใต้เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 3 มูลค่าการค้า 2 ทางที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้น 75 เท่าตัวมีมูลค่ารวม 38,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.368 ล้านล้านบาท) และเกาหลีใต้เป็นผู้ลงทุนใหญ่อันดับ 1 ในเวียดนามมีโครงการลงทุนรวม 4,800 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 45,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.62 ล้านล้านบาท)
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,156 วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559