นักวิเคราะห์หุ้นยันอสังหาฯไทยไม่มีวันตาย

02 พ.ค. 2559 | 07:00 น.
นักวิเคราะห์หุ้นจาก บล.กสิกรไทย ชี้ตลาดอสังหาฯไม่มีวันตาย เชื่อคนไทยยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอีกครั้งหลังโครงการรถคันแรกหมด

[caption id="attachment_49154" align="aligncenter" width="356"] กวี ชูกิจเกษม  รองกรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กวี ชูกิจเกษม
รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)[/caption]

นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการอสังหาฯ ของภาครัฐในส่วนตัวแล้วมองว่าไม่ได้เป็นความหวังที่มากมายแต่อย่างใดของผู้ประกอบการ เพราะมีการวางแผนในระยะยาวอยู่แล้ว ดังนั้นหากมองกันในระยะยาวจริงต้องการให้มองไปถึงอายุของคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือ 30-40 ปี โดยเป็นช่วงอายุที่สามารถกู้เงินมาซื้อที่อยู่อาศัยได้ แม้ว่าหนี้ครัวเรือนจะมีระดับที่สูงแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะประเทศอื่นก็สูงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มองว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะกลับมาเมื่อโครงการรถคันแรกหมดไป ซึ่งภาระดังกล่าวจะหมดไปในปี 2560

"ที่สำคัญผมเชื่อว่าอสังหาฯไม่ตายแน่นอน ต่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเดี๋ยวก็มีการปรับตัวขึ้นมาใหม่ สำหรับประเทศไทยผมเชื่อว่าจะลงไม่มาก เนื่องจากยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายโครงการ "

นายกวีขยายความว่า ประเทศไทยยังไม่เคยมีการพูดถึงโครงการเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน จากเดิมที่มีแต่โครงการแต่ไม่เริ่ม ปัจจุบันมีการดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น โดยรถไฟฟ้าที่ไปเกิดแถวปริมณฑลนั้น ไม่แน่ใจว่าจะเป็นก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรือไม่ เพราะรถไฟฟ้าสายที่ไปปริมณฑล ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นคอนโดมิเนียมก็ได้ แต่จะเป็นบ้านเดี่ยวแนวราบ ทาวน์เฮาส์มากขึ้น เพราะเป็นพื้นที่ไกลจากเมือง อีกทั้งปัจจุบันบ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮาส์ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้านั้นขายง่ายมาก เพราะได้ทำเล ซึ่งหลังจากนี้ผู้ที่ทำคอนโดมิเนียมก็ต้องคิดแล้วว่า ในอนาคตแนวโน้มของคอนโดมิเนียมที่โตได้ดีกับเมืองใหญ่ยังจะโตได้ดีเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่ เพราะเวลานี้คอนโดฯในกรุงเทพฯก็ไปตามทุกสถานีแล้ว ซึ่งคอนโดฯต่างจังหวัดไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะเปิดขึ้นมาก็เต็มจังหวัดแล้ว จะเปิดขึ้นอีกไม่ได้ ในเมื่อคอนโดฯเป็นแบบนี้ก็จะต้องปรับตัวมาเป็นบ้านแนวราบมากขึ้นหรือไม่กับแนวรถไฟฟ้าในอนาคต เพราะจะสร้างความต้องการสินค้ามากขึ้นในต่างจังหวัด เพราะเวลานี้คนก็หนีเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯหมด ต่อไปในอนาคตก็จะวิ่งหาปริมณฑลมากขึ้น

"เศรษฐกิจสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นหากปีนี้ หรือปีหน้าเศรษฐกิจยังโตได้ 3% และหากปีหน้าโครงการรถไฟฟ้ามาอีก จากโครงการประมูลปีนี้จำนวนมากที่ยังสร้างไม่ทัน ซึ่งจะเป็นแนวโน้มที่บ่งบอกว่าในปีถัดไปจะมีตรงนี้ช่วยหนุนเศรษฐกิจ โดยที่ไม่ต้องหวังจากการส่งออก เพียงแค่ตรงนี้เศรษฐกิจก็โตได้แล้ว"นายกวีกล่าวและว่า

หากมองกันในระยะยาวจริงๆ อสังหาฯเป็นปัจจัย 4 ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเพียงแค่กระตุ้นราคาระยะสั้น แล้วก็ลงมา แต่สิ่งที่ตนกำลังดูคือรอบของการลงทุน 1-2 ปีข้างหน้า หากไม่นับรวมมาตรการอสังหาฯ ถือว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ โดย 1-2 ปีนี้สามารถขึ้นได้อยู่แล้ว ซึ่งข้อดีของกลุ่มอสังหาฯ คือราคาของบ้านเรายังไม่ตก โดยหากราคาตกจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนจะรอซื้อ

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,153 วันที่ 1 - 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559