มทร.ธัญบุรีจับมือสสว.แนะSMEs ‘สร้างแบรนด์ให้ปัง ต้องทำให้โดน’

28 เม.ย. 2559 | 12:42 น.
[caption id="attachment_48769" align="aligncenter" width="503"] มทร.ธัญบุรี ร่วมกับ สสว. ปลุกพลัง SMEs แนะ ‘สร้างแบรนด์ให้ปัง ต้องทำให้โดน’ “ในแต่ละวัน เราสัมผัสและพบเจอแบรนด์ หรือตราสินค้ามากมาย แต่คนเรานั้นมีความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆ ค่อนข้างจำกัด คำถามสำคัญคือมีใครบ้างที่จำแบรนด์ได้ทั้งหมด...แน่นอนว่าแบรนด์ที่ชื่นชอบ โดดเด่น จะถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ การสร้างแบรนด์จึงมีความสำคัญ ทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ มีโอกาสที่ดี และมีความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจ” เสียงอันทรงพลังที่สะท้อนถึงผู้ประกอบการ SMEs ตามความคิดของอาจารย์พีรวงศ์ จาตุรงคกุล (อ.โจ้) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ บรรยายเรื่อง “สร้างแบรนด์ให้ปัง ต้องทำให้โดน” ในงาน “ปลุกพลัง SMEs พลิกวิกฤติ สร้างโอกาสสู่ความสำเร็จ” ภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสา มทร.ธัญบุรี ร่วมกับ สสว. ปลุกพลัง SMEs
แนะ ‘สร้างแบรนด์ให้ปัง ต้องทำให้โดน’
“ในแต่ละวัน เราสัมผัสและพบเจอแบรนด์ หรือตราสินค้ามากมาย แต่คนเรานั้นมีความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆ ค่อนข้างจำกัด คำถามสำคัญคือมีใครบ้างที่จำแบรนด์ได้ทั้งหมด...แน่นอนว่าแบรนด์ที่ชื่นชอบ โดดเด่น จะถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ การสร้างแบรนด์จึงมีความสำคัญ ทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ มีโอกาสที่ดี และมีความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจ”
เสียงอันทรงพลังที่สะท้อนถึงผู้ประกอบการ SMEs ตามความคิดของอาจารย์พีรวงศ์ จาตุรงคกุล (อ.โจ้) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ บรรยายเรื่อง “สร้างแบรนด์ให้ปัง ต้องทำให้โดน” ในงาน “ปลุกพลัง SMEs พลิกวิกฤติ สร้างโอกาสสู่ความสำเร็จ” ภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสา[/caption]

“ในแต่ละวัน เราสัมผัสและพบเจอแบรนด์ หรือตราสินค้ามากมาย แต่คนเรานั้นมี ความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆ ค่อนข้างจำกัด คำถามสำคัญคือมีใครบ้างที่ จำแบรนด์ได้ทั้งหมด...แน่นอนว่ าแบรนด์ที่ชื่นชอบ โดดเด่น จะถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ การสร้างแบรนด์จึงมีความสำคัญ ทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ มีโอกาสที่ดี และมีความได้เปรียบในการดำเนิ นธุรกิจ”

เสียงอันทรงพลังที่สะท้อนถึงผู้ ประกอบการ SMEs ตามความคิดของอาจารย์พีรวงศ์  จาตุรงคกุล (อ.โจ้) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้ างแบรนด์ บรรยายเรื่อง “สร้างแบรนด์ให้ปัง ต้องทำให้โดน” ในงาน “ปลุกพลัง SMEs พลิกวิกฤติ สร้างโอกาสสู่ความสำเร็จ” ภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิ จและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธั ญบุรี และภาคีอีก 2 หน่วยงาน คือ ธนาคารเอสเอ็มอี และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ร่วมมือดำเนินโครงการให้ความรู้ และจัดที่ปรึกษาเพื่อวินิจฉั ยให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ ประกอบการทั่วภูมิภาค ช่วยเหลือและยกระดั บความสามารถของผู้ประกอบการธุ รกิจ SMEs เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิ จ ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่ จ.นครปฐม

คุณม่อน - จตุพร  อุปพันธ์พงศ์ชัย อายุ 38 ปี จากบริษัท ไอซ์ แอลอีดี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจอและไฟแอลอี ดี ที่เข้าร่วมโครงการฯ เล่าว่า ตนทำธุรกิจมานานกว่า 4 ปี แต่ประสบปัญหาคือคู่แข่งนำเข้ าสินค้าเกรดต่ำและมาขายตัดราคา ขณะที่ตนนั้นผลิตสินค้าได้ที่มี คุณภาพ ได้มาตรฐาน หากลดราคาลงให้เท่ากับคู่แข่งก็ ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นผู้ผลิตเองด้วยวัสดุที ่มีต้นทุนสูง จึงมาเข้าสัมมนาเพื่อหาวิธี การสร้างแบรนด์ให้เกิดขึ้น เพื่อชูความแตกต่าง ความโดดเด่น มีคุณภาพ ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย และมีกลยุทธ์การทำธุรกิจที่ดี

คุณอ้น - ศุภชัย  กิจเจริญ อายุ 31 ปี ตำแหน่ง Cluster Development Agent  ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮว่านง็อก (ประเทศไทย) ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีความมุ่ งมั่นที่สร้างสินค้าในแบรนด์ ของตนเอง หลังจากศึกษาข้อมูลและเก็ บประสบการณ์มาหลายปีเกี่ยวกั บการรวมกลุ่มสินค้าของไทยด้านสุ ขภาพจากหลายผู้ประกอบการ เพื่อขายส่งให้กับร้านจำหน่ายชั ้นนำ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนเป็นหลัก

“แม้ผมจะมีข้อมูลเชิงลึกในแต่ ละผลิตภัณฑ์จากการรวมกลุ่ม แต่ต้องการเติมเต็มและอั พเดทความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ จึงสนใจเข้าโครงการ และได้คำแนะนำเบื้องต้นที่ดี สามารถเอาไปแก้ปัญหาได้ด้ วยตนเอง และได้รับรู้หลายกรณีศึกษา ซึ่งช่วยจุดประกายการพัฒนาธุรกิ จยิ่งๆ ขึ้นไป” อ้น กล่าว

เช่นเดียวกับ น้องยิ่ง - ธนดล  พจน์เลิศอรุณ อายุ 23 ปี ทายาทธุรกิจ A S Auto Glass ศูนย์บริการติดตั้งกระจกรถยนต์ และฟิล์มกรองแสง อ.เมือง จ.นครปฐม สะท้อนปัญหาการทำธุรกิจให้ฟังว่ า แม้จะมีลูกค้าเก่าที่ดูแลอยู่ แล้ว แต่การหาลูกค้าใหม่ทำได้ค่อนข้ างยาก และยังไม่เคยทำการตลาดมาก่อน รวมถึงร้านคู่แข่งก็อยู่ ในละแวกเดียวกัน ทำให้เกิดการแข่งขันกัน จึงอยากสร้างแบรนด์ A S Auto Glass ให้เกิดขึ้น

น้องยิ่ง กล่าวว่า “แม้ครอบครัวจะทำธุรกิจติดตั้ งกระจกรถยนต์และฟิล์ มกรองแสงมานาน หากไม่ขยับหรือปรับตัวให้ทันกั บตลาดและความต้องการของผู้บริ โภค ธุรกิจก็อาจจะอยู่ไม่รอด  ผมมองว่าการทำธุรกิจ ต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์ มีความเป็นมืออาชีพและรู้ลึกรู้ จริง ดังเช่น อาจารย์ที่ปรึกษาและวิทยากรที่ มาให้คำแนะนำ เช่น การสร้างแบรนด์ กลยุทธ์การหาลูกค้าด้วยวิธีอื่ นๆ การสื่อสารการตลาด และเทรนด์ใหม่ของการทำธุรกิจเพื ่อให้เติบโตและยั่งยืน”

คุณอนุวัตร พฤกษาประทีป อายุ 68 ปี อาจารย์สอนพิเศษภาษาจีน ให้กับวัยเด็ก วัยเรียน วัยรุ่นและนักธุรกิจ เผยว่า ตนมาเรียนรู้ มาหาแรงบันดาลใจและกำลั งใจในการทำธุรกิจแบบสมัยใหม่ โดยเริ่มจากการสร้างแบรนด์ และต้องการทำธุรกิจโดยเปิดเป็ นสถาบันสอนภาษาจีน เนื่องจากโลกยุคใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ ยนแปลงไปหมด หากช้าหรือไม่ปรับตัว ทำธุรกิจลักษณะเดิมๆ เหมือน 10 ปีก่อน ถือว่าล้าหลัง การเข้าร่วมโครงการนี้ ถือเป็นการเติมความรู้ใหม่เพื่ อการทำธุรกิจ

ขณะที่ นายพงศ์พิชญ์  ต่วนภูษา รองอธิการบดีมหาวิทยาลั ยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) กล่าวปิดท้ายว่า มทร.ธัญบุรี กับ สสว. ถือเป็นหัวเรือใหญ่สำหรั บโครงการนี้ เพราะเราอยากมีส่วนร่วมในการช่ วยเหลือภาคธุรกิจSMEs ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เราเริ่มทำโครงการมาตั้งแต่เดื อนกุมภาพันธ์ มีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่ วมโครงการมากมาย ใน 6 จังหวัดที่ผ่านมา การลงพื้นที่ จ.นครปฐม ครั้งนี้เหมือนเป็นเวทีย่อย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ ประกอบการในการเข้าร่วมโครงการ เพื่อเติมเต็มความรู้แลกเปลี่ ยนปัญหาซึ่งกันและกัน โดยทีมอาจารย์ที่ปรึกษามืออาชีพ ซึ่ง มทร.ธัญบุรี จะเป็นพี่เลี้ยง เป็นเพื่อนและเป็นพลังเคียงข้ างผู้ประกอบการ SMEs ตลอดไป