สุดยอดปรากฏการณ์มูลค่าทีมเลสเตอร์ซิตี้เพิ่ม 8 เท่าตัว

01 เม.ย. 2559 | 04:25 น.
ตอนที่นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของดิวตี้ฟรี คิงส์พาวเวอร์ ซื้อทีมฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ สโมสรในดีวิชัน 1 อังกฤษในปี 2553 ‘เฮียไช้’ จ่ายเงินไป 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,000 ล้านบาทในอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) ตอนนี้ราคาเพิ่มไปแล้ว 8 เท่าตัวผู้เชี่ยวชาญระบุว่าราคา เลสเตอร์ซิตี้ ปัจจุบันอยู่ที่ ประมาณ 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 15,136 ล้านบาท) เป็นอย่างน้อย และปีหน้ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นอีก เรียกได้ว่าตอนนี้เจ้าพ่อดิวตี้ฟรีประเทศไทยกำไรไปแล้วอย่างน้อย 13,000 ล้านบาท

คนที่ขายทีมจิ้งจอก (สยาม) เลสเตอร์ซิตี้ ให้ วิชัย คือนายมิลาน ดันดาริช (Milan Mandaric) เศรษฐีนักธุรกิจอเมริกันเชื้อสายเซอร์เบีย คนเดียวกันที่ขายทีมฟุตบอล ‘นกเค้าแมว’ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ให้กับนายเดชพล จันศิริ ลูกหลานราชาปลากระป๋องของไทย ในราคาประมาณ 30 ล้านปอนด์

นายดันดาริช ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูกเบิร์ก เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ‘ตอนนี้ราคาเลสเตอร์สูงกว่าเงินที่ผมได้ตอนขายไปมาก’

ความสำเร็จของทีมฟุตบอลจิ้งจอก (สยาม) เลสเตอร์ซิตี้ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นทีมฟุตบอลอังกฤษที่ในปีที่แล้วยังหนีตกชั้นอยู่เลย แต่ปีนี้เต็งแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝีมือเจ้าของ ฝีมือโค้ช เจ้าของมหาเฮง การค้นพบกระดูกของกษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 ในเมืองนี้ ความพิศดารของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ หรือยันต์เจ้าคุณธงชัย ก็ตามถือว่าเป็นสุดยอดการลงทุนของเศรษฐีไทยในอังกฤษไปแล้ว

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าความสำเร็จของทีมเลสเตอร์ซิตี้ทำให้ นักลงทุนจากประเทศไทยยิ่งรวยขึ้นไปอีกและยังได้ทำลายความเชื่อแต่เดิมว่า ในพรีเมียร์ลีกต้องทุ่มเงินลงไปให้มากที่สุด จึงจะชนะและได้เงินมากขึ้น

นายดันดาริช ให้สัมภาษณ์ บลูมเบิร์กว่ามูลค่าเลสเตอร์ในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 300 ล้านปอนด์ซึ่งเมื่อดูตามตารางมูลค่าทีฟุตบอลทั่วโลกของนิตยฟอร์บส์ แล้วมูลค่าของทีมเลสเตอร์ในปีนี้ติดอันดับ 1 ใน 20 สโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

บลูมเบิร์ก ระบุว่าผลการดำเนินงานของสโมสรทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ในปีนี้มีโอกาสทำกำไรอย่างต่ำ 26 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นกำไรครั้งแรกจากผลประกอบการในรอบ 10 ปี เป็นรายได้สโมสร 104 ล้านปอนด์ และเงินส่วนแบ่งค่าถ่ายทอดสดการแข่งขันจากพรีเมียร์ลีกอีก 72 ล้านปอนด์ และถ้าเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกจะได้เงินส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นอีกโดยในปีที่แล้วทีมเชลซีเป็นแชมป์ ได้ส่วนแบ่งการถ่ายทอดโทรทัศน์ไป 99 ล้านปอนด์ ทำให้รายได้โดยรวมของเลสเตอร์ปีนี้เพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้วอย่างน้อย 30 %

ในปีหน้ารายได้ของจิ้งจอกสยามเลสเตอร์ จะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกของยุโรป จะได้เงินส่วนแบ่งอีกอย่างน้อย 25 ล้านปอนด์และจะได้ส่วนแบ่งโบนัสค่าถ่ายทอดสดจากพรีเมียร์ลีกที่ทำเงินถึง 8,000 ล้านปอนด์ในช่วง 3 ปี ซึ่งเลสเตอร์จะได้มากกว่า 100 ล้านปอนด์แน่นอน

มูลค่าสินทรัพย์อีกด้านหนึ่งซึ่งเพิ่มขึ้นมาก คือค่าตัวนักเตะ ‘เจมี่ วาร์ดี้’ ศูนย์หน้าดาวยิงเลสเตอร์อดีตช่างก่อปูน ถูกซื้อตัวมาในปี 2555 ในราคา 1 ล้านปอนด์ ล่าสุดสโมสรเลสเตอร์ต่อสัญญา 3 ปีในราคาค่าตัว 4 ล้านปอนด์ ส่วนปีกจอมเลื้อยของเลสเตอร์ ริยาด มาห์เรซ ซื้อตัวมาในราคา 400,000 ปอนด์ ในปี 2557 หนังสือพิมพ์ในอังกฤษระบุว่าค่าตัวของ 2 นักเตะ ขณะนี้น่าจะอยู่ที่คนละ 30 ล้านปอนด์

‘เฮียไช้’ ประสบความสำเร็จในการลงทุนซื้อทีมฟุตบอลที่อังกฤษอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากแต่ก็เกิดขึ้นแล้ว นับเป็นความโชคดีของมหาเศรษฐีไทย ในการลงทุนต่างแดน ขณะเดียวกัน การแข่งขันธุรกิจดิวตี้ฟรีในประเทศกำลังเข้มข้นจากผู้ท้าชิงจากต่างแดนและธุรกิจค้าปลีกในประเทศ

นี่คือเสี้ยวหนึ่งของชีวิตมหาเศรษฐีไทยที่สร้างตัวขึ้นมาในหนึ่งชั่วอายุคนเท่านั้น