ชาวนากังขาข้าวอุตฯ12ล้านตัน ‘พาณิชย์’ โรดโชว์ขายข้าวไทย

26 มี.ค. 2559 | 08:00 น.
สมาคมชาวนาโอดครวญ สินเชื่อ 2 พันล้าน ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ ล็อกสเปก "นาแปลงใหญ่" ใหม่ ดันโครงการเก่าต่อยอดไม่ได้ จวกพาณิชย์ประเมินข้าว 12 ล้านตันเป็นข้าวอุตสาหกรรมทั้งหมด ไม่เป็นผลดีต่อราคาในประเทศ-ตลาดโลก ด้านผู้ประกอบการข้าวถุง ไม่ห่วงแล้งซัพพลายขาด "พาณิชย์"กางแผนโรดโชว์บุกตลาดใหม่-เก่า ฟุ้งส่งออกข้าวกว่า 2 เดือนเพิ่มทั้งปริมาณและมูลค่า

นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงกรณีข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่มีอยู่จำนวน 12 ล้านตันที่ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินให้เป็นข้าวอุตสาหกรรมทั้งหมดนั้น มองว่าไม่เป็นผลดีต่อราคาข้าวทั้งในประเทศและตลาดโลก ซ้ำร้ายจะกดดันราคาทำให้คู่ค้าตั้งแง่ในการกดราคาขาย เพราะเชื่อว่าข้าวไม่ได้เสื่อมทั้งหมด จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเปิดช่องให้ผู้ประมูลได้นำข้าวกองนี้ไปคัดคุณภาพอีกชั้น แล้วนำมาสีแปรออกวางจำหน่ายหรือไม่ก็ส่งออก แม้ว่าปีนี้ชาวนาบางพื้นที่จะปลูกข้าวไม่ได้ แต่ผู้ส่งออกยังมีข้าวรัฐบาลส่งออกตลอด จึงไม่ได้กระทบเลย

ส่วนมาตรการที่จะออกมาช่วยเหลือชาวนาก็ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมเลย แม้แต่การให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อ วงเงิน 2 พันล้านบาท ตั้งเป้า 404 แปลง ในรูปแบบโครงการนาแปลงใหญ่ จะต้องเป็นโครงการใหม่ จะนำโครงการเก่าที่สมาคมเคยนำร่องในจังหวัดอุตรดิตถ์มาเข้าร่วมโครงการไม่ได้

สอดรับกับนายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย ที่ระบุถึงสถานการณ์ราคาข้าวถุงในประเทศขณะนี้นั้นยังทรงตัว โดยเฉพาะราคาข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 1.5- 2 หมื่นบาท ส่วนราคาข้าวขาวอยู่ที่ตันละ 7 พัน- 1 หมื่นบาท ขณะที่การแข่งขันในตลาดหากเปรียบเทียบข้าวถุงแบรนด์เนมกับผู้ที่ยังไม่มีแบรนด์ราคาจะต่างกันถุงละ 40-50 บาท ส่วนผลกระทบจากภัยแล้งชาวนาไม่สามารถปลูกข้าวได้นั้น เชื่อว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวถุง เนื่องจากยังมีพื้นที่ที่สามารถปลูกข้าวป้อนตลาดได้อย่างเพียงพอ

ด้านนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการตลาดข้าวปีนี้ว่า ในส่วนของแผนตลาดต่างประเทศนั้น กรมวางแผนงานที่จะเข้าไปทำตลาดใน 7-8 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน ฮ่องกง อิรัก ฟิลิปปินส์ อิหร่าน แอฟริกา สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากแยกเป็นตลาดๆ อย่างตลาดอิรักนั้นในวันที่ 28-29 มีนาคมที่จะถึงนี้ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าระหว่างไทย-อิรัก(JTC) ซึ่งจะมีการหารือในประเด็นการนำเข้าข้าวด้วยเพราะทางอิรักเองก็ยังสนใจที่จะนำเข้าข้าวจากไทยและไทยเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลหากทางอิรักเปิดประมูลข้าว เช่นเดียวกับตลาดอิหร่านหลังจากที่มีการเดินทางเยือนอิหร่านของคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ก็มีคำสั่งซื้อข้าวจากไทย หลังจากนี้กรมจะเชิญหน่วยงานด้านอาหารของอิหร่านเดินทางมาเยือนไทยเพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิตข้าวของไทยและสร้างความมั่นใจคุณภาพมาตรฐานข้าวของไทย

ส่วนตลาดใหญ่อย่างจีนนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย-จีน ครั้งที่ 4 ที่กรุงปักกิ่ง ช่วงต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้เพื่อเจรจาราคาซื้อขายข้าว 1 ล้านตัน ล็อตที่ 2 ภายใต้ เอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย-จีน หลังจากที่ข้าว 1 ล้านตันแรกที่ได้ตกลงซื้อขายกันในช่วงรัฐบาลชุดที่ผ่านมา การส่งมอบ ปริมาณ 1.3 แสนตันที่เป็นล็อตสุดท้าย จะสิ้นสุดลงภายในเดือนพฤษภาคมนี้

อย่างไรก็ดีในปีนี้นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 17 มีนาคม2559 ไทยส่งออกได้ถึงปริมาณ 2.38 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 28% ส่วนมูลค่าการส่งออก 3.73 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับการส่งออกข้าวในช่วงนี้ถือว่าค่อนข้างดีและราคาข้าวน่าจะพ้นจุดต่ำสุด คาดราคาข้าวขาว 5 % ในตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,142 วันที่ 24 - 26 มีนาคม พ.ศ. 2559