‘เจอเนสส์’ ฟุ้งยอดโตกว่า90% เดินหน้าขยายเครือข่าย โกยตัวเลขทะลุ 1.34 พันล้าน
เจอเนสส์ บุกตลาดขายตรงทั่วโลก เผย 2 เดือนยอดขายโตกว่า 90% มั่นใจกวาดรายได้ต่อเนื่อง หลังจากปีก่อนโกยสนั่นกว่า 3.85 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในไทยศักยภาพสูงคาดสิ้นปีโต 100% ยอดทะลุ 1.34 พันล้านขยับสู่อันดับที่ 25 จากเดิม 38 พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฟิลิปปินส์เร็วๆ นี้
[caption id="attachment_40509" align="aligncenter" width="335"]
สก็อต เอ.ลิวอิส
ผู้บริหารระดับสูง
บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล จำกัด[/caption]
นายสก็อต เอ.ลิวอิส ผู้บริหารระดับสูง บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงแบรนด์ "เจอเนสส์" เปิดเผยว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโต 92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยได้รับรางวัลจากเวทีต่างๆ ในปีที่ผ่านมามากถึง 50 รางวัล ขณะที่ปีนี้ได้รับรางวัลต่างๆ แล้ว 12 รางวัล อาทิ Quantum Workplace 2016 และ AVA Digital Awards 2016 ซึ่งเป็นรางวัลด้านการตลาดและการสื่อสารในระบบดิจิตอล
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จะมีการจัดงานฉลองความสำเร็จในหลายประเทศ อาทิ การจัดงานประชุมผู้นำธุรกิจในฮ่องกง ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นคน การจัดประชุมผู้นำธุรกิจในบราซิล ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1 หมื่นคน และการจัดประชุมนักธุรกิจในอิตาลี ที่คาดว่ามีผู้เข้าร่วมงานกว่า 7 พันคน การพานักธุรกิจเข้าร่วมทริปล่องเรือสำราญ ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ที่มีจำนวนนักธุรกิจเข้าร่วม 5 พันคน การเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า (luminesce)
"ในประเทศไทยได้มีการจัดประชุมผู้นำธุรกิจไปแล้ว ซึ่งมีนักธุรกิจเข้าร่วมกว่า 4 พันคน ซึ่งมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ด้วย และได้รับการตอบรับที่ดี โดยสินค้าใหม่ตอนนี้เปิดตัวทำตลาดแล้ว 2 ประเทศ คือไทยและฮ่องกง ซึ่งมีแผนจะเปิดตลาดต่อไปในทุกประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วนการพานักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไปล่องเรือสำราญในช่วงเดือนพฤษภาคมนั้น คาดว่าจะมีนักธุรกิจคนไทยเข้าร่วมทริปครั้งนี้ 800 คนด้วย"
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเปิดสำนักงานในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีงบประมาณการลงทุนกว่า 630 ล้านบาท โดยมีขนาดพื้นที่สำนักงาน 1.2 หมื่นตารางเมตร ส่วนการดำเนินงานในประเทศไทย ปีนี้จะมีการฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจครบ 7 ปี พร้อมกับการทำตลาดผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับผลประกอบการในประเทศไทย ปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 100% ซึ่งปีที่ผ่ามาสามารถทำยอดขายได้ 1.34 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 67% ถือว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
ส่วนผลการดำเนินงานทั่วโลกในปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้กว่า 3.85 หมื่นล้านบาท เติบโต 172% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศใหม่หลายประเทศ ทั้งในกลุ่มประเทศยุโรปและประเทศอื่นๆ อาทิ อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย ที่พบว่ามีผลการดำเนินงานทีเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการนำสินค้ากลุ่มลดน้ำหนักเซนโปรเจ็กต์ 8 (Zen Project 8) กลับมาทำตลาดใหม่อีกครั้ง หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยการใช้แอมบาสซาเดอร์ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดี
"ในปีที่ผ่านมาตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง จะเป็นกลุ่มประเทศในยุโรป อเมริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ โดยมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ 160 รหัส ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกจำนวน 6.5 แสนรหัสทั่วโลก ซึ่งในปีนี้คาดว่าอันดับของบริษัทในกลุ่มธุรกิจขายตรงทั่วโลกน่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็นอันดับที่ 25 จากปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่ 38 ของโลก ซึ่งคงต้องรอผลที่ชัดเจนอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายนนี้"
ด้านนายกันวาร์ บูตานิ ประธานภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก และตะวันออกกลาง กล่าวว่า ตลาดเอเชียมีอัตราการเติบโตที่ดีถึง 100% โดยเฉพาะประเทศไทยและไต้หวัน ที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็มีอัตราเติบโตที่ดี และบริษัทมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องด้วย อาทิ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศฟิลิปปินส์ การแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการเพื่อบริหารงานในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ จากเดิมที่มีผู้บริหารคนเดียวดูแลทั้ง 2 ประเทศ การขยายการทำตลาดในจังหวัดต่างๆ ของประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_40509" align="aligncenter" width="335"]
ผู้บริหารระดับสูง
บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล จำกัด[/caption]
นายสก็อต เอ.ลิวอิส ผู้บริหารระดับสูง บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงแบรนด์ "เจอเนสส์" เปิดเผยว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโต 92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยได้รับรางวัลจากเวทีต่างๆ ในปีที่ผ่านมามากถึง 50 รางวัล ขณะที่ปีนี้ได้รับรางวัลต่างๆ แล้ว 12 รางวัล อาทิ Quantum Workplace 2016 และ AVA Digital Awards 2016 ซึ่งเป็นรางวัลด้านการตลาดและการสื่อสารในระบบดิจิตอล
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จะมีการจัดงานฉลองความสำเร็จในหลายประเทศ อาทิ การจัดงานประชุมผู้นำธุรกิจในฮ่องกง ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นคน การจัดประชุมผู้นำธุรกิจในบราซิล ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1 หมื่นคน และการจัดประชุมนักธุรกิจในอิตาลี ที่คาดว่ามีผู้เข้าร่วมงานกว่า 7 พันคน การพานักธุรกิจเข้าร่วมทริปล่องเรือสำราญ ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ที่มีจำนวนนักธุรกิจเข้าร่วม 5 พันคน การเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า (luminesce)
"ในประเทศไทยได้มีการจัดประชุมผู้นำธุรกิจไปแล้ว ซึ่งมีนักธุรกิจเข้าร่วมกว่า 4 พันคน ซึ่งมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ด้วย และได้รับการตอบรับที่ดี โดยสินค้าใหม่ตอนนี้เปิดตัวทำตลาดแล้ว 2 ประเทศ คือไทยและฮ่องกง ซึ่งมีแผนจะเปิดตลาดต่อไปในทุกประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วนการพานักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไปล่องเรือสำราญในช่วงเดือนพฤษภาคมนั้น คาดว่าจะมีนักธุรกิจคนไทยเข้าร่วมทริปครั้งนี้ 800 คนด้วย"
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเปิดสำนักงานในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีงบประมาณการลงทุนกว่า 630 ล้านบาท โดยมีขนาดพื้นที่สำนักงาน 1.2 หมื่นตารางเมตร ส่วนการดำเนินงานในประเทศไทย ปีนี้จะมีการฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจครบ 7 ปี พร้อมกับการทำตลาดผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับผลประกอบการในประเทศไทย ปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 100% ซึ่งปีที่ผ่ามาสามารถทำยอดขายได้ 1.34 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 67% ถือว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
ส่วนผลการดำเนินงานทั่วโลกในปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้กว่า 3.85 หมื่นล้านบาท เติบโต 172% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศใหม่หลายประเทศ ทั้งในกลุ่มประเทศยุโรปและประเทศอื่นๆ อาทิ อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย ที่พบว่ามีผลการดำเนินงานทีเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการนำสินค้ากลุ่มลดน้ำหนักเซนโปรเจ็กต์ 8 (Zen Project 8) กลับมาทำตลาดใหม่อีกครั้ง หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยการใช้แอมบาสซาเดอร์ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดี
"ในปีที่ผ่านมาตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง จะเป็นกลุ่มประเทศในยุโรป อเมริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ โดยมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ 160 รหัส ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกจำนวน 6.5 แสนรหัสทั่วโลก ซึ่งในปีนี้คาดว่าอันดับของบริษัทในกลุ่มธุรกิจขายตรงทั่วโลกน่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็นอันดับที่ 25 จากปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่ 38 ของโลก ซึ่งคงต้องรอผลที่ชัดเจนอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายนนี้"
ด้านนายกันวาร์ บูตานิ ประธานภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก และตะวันออกกลาง กล่าวว่า ตลาดเอเชียมีอัตราการเติบโตที่ดีถึง 100% โดยเฉพาะประเทศไทยและไต้หวัน ที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็มีอัตราเติบโตที่ดี และบริษัทมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องด้วย อาทิ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศฟิลิปปินส์ การแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการเพื่อบริหารงานในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ จากเดิมที่มีผู้บริหารคนเดียวดูแลทั้ง 2 ประเทศ การขยายการทำตลาดในจังหวัดต่างๆ ของประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559