ดึง100ร้านดังต่อยอด จัดครัวคุณต๋อย เอ็กซ์โปฯ เล็งผุดรายการใหม่เพิ่ม

07 ก.พ. 2559 | 05:00 น.
ไตรภพ ต่อยอดความสำเร็จ ดึง 100 ร้านอาหารดังร่วมงาน “ครัวคุณต๋อย เอ็กซ์โป บายจิ้มแจ่ม” หลังรายการเรตติ้งพุ่ง ยอดขายแม็กกาซีนโตพรวด ยอดพิมพ์ทะลุ8 หมื่นเล่มสูงสุดในวงการหนังสืออาหาร เตรียมผุดรายการใหม่ทั้งบันเทิงและสาระ พร้อมเล็งรีเทิร์น 2 รายการดังในอดีต “เกมเศรษฐี-ฝันที่เป็นจริง” หลังกระแสเรียกร้องสูงพร้อมวิพากษ์วงการทีวีกำลังไล่ตามสื่อออนไลน์ แนะปรับตัวผลิตทีวีออนไลน์สู้

นายไตรภพ ลิมปพัทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด ผู้ผลิตรายการทูเดย์โชว์ และครัวคุณต๋อย เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ได้เตรียมจัดงานครัวคุณต๋อย เอ็กซ์โป บายจิ้มแจ่ม ระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์นี้ ที่ควอร์เทียร์ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิเอ็มควอร์เทียร์ ซึ่งภายในงานเป็นการรวบรวมร้านอาหาร ที่เคยออกอากาศในรายการครัวคุณต๋อยจำนวน 100 ร้าน และได้รับการสนับสนุนหลักจากผู้ประกอบการ 4 ราย ได้แก่ ดีแทค เมืองไทยไทยประกันชีวิต โอช้อปปิ้ง และข้าวไทยตราพันดี ซึ่งหากการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ในปีต่อไปจะมีการจัดงานในลักษณะดังกล่าวและจะเพิ่มร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารเพิ่มด้วย อาทิ เครื่องปรุง และเครื่องครัว เป็นต้น

ความสำเร็จของรายการครัวคุณต๋อย เกิดจากการผลิตรายการที่บอกสูตรอาหารอย่างจริงจัง นำเสนออย่างเต็มที่และมีความสนุก ซึ่งสามารถบอกสูตรอาหารของร้านค้าชั้นนำได้อย่างแท้จริง รวมถึงการเน้นคุณภาพของรายการ และไม่ชี้นำผู้ชมในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งจะเห็นได้จากเนื้อหารายการจะไม่มีป้ายโฆษณาสินค้าด้านหลัง ประกอบกับเรื่องการกินเป็นไลฟ์สไตล์ของผู้ชมในยุคปัจจุบันที่สามารถเข้าถึงได้ โดยคาดว่าคนไทยทั้งประเทศมากกว่า 50% ที่เคยรับชมรายการครัวคุณต๋อย อาจจะมาจากหลายช่องทาง ทั้งโทรทัศน์และออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันรายการออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ มีเวลาออกอากาศวันละ 30 นาที

อย่างไรก็ดีหลังประสบความสำเร็จจากการทำรายการครัวคุณต๋อยได้ระยะหนึ่ง จึงคิดทำนิตยสาร "ครัวคุณต๋อย" ออกมาจำหน่าย ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีช่วง 3 เดือนแรกมียอดพิมพ์และจำหน่ายเฉลี่ย 1 แสนเล่มต่อเดือน ขณะที่ปัจจุบันมียอดพิมพ์ประมาณ 8 หมื่นเล่มต่อเดือน ถือว่าเป็นนิตยสารเกี่ยวกับอาหารที่มียอดพิมพ์และจำหน่ายสูงที่สุด โดยแผนงานต่อไปในอนาคตพยายามจะขยายจำนวนผู้อ่านให้มากขึ้น ด้วยการผลักดันให้นิตยสารไปสู่ร้านอาหารและร้านเสริมสวย จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 10% โดยใช้ทีมการตลาดเข้าเจาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าว เนื่องจากมีอัตราค่าสมัครสมาชิกประมาณ 1.2 พันบาทต่อ 2 ปี หรือราคาเล่มละ 50 บาท

ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแนวคิดในการเพิ่มหัวหนังสือออกมาทำตลาด เนื่องจากธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์มีความยากในการผลิตและทำตลาด โดยเฉพาะหนังสือด้านการท่องเที่ยว แม้ว่าช่วงอะเมซิ่งต่างแดน ในรายการทูเดย์โชว์ จะประสบความสำเร็จมีผู้ชมจำนวนมากก็ตาม เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม และการท่องเที่ยวในรูปแบบที่รายการมานำเสนอนั้น ใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันพฤติกรรมคนไทยปัจจุบันอ่านหนังสือน้อย

นายไตรภพ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทผลิตรายการเพียง 2 รายการ ได้แก่ ทูเดย์โชว์ และครัวคุณต๋อย ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้ที่เน้นสาระเป็นหลัก และเสริมด้วยความบันเทิง โดยปีนี้มีแนวคิดที่จะผลิตรายการใหม่เพิ่ม อาจจะเป็นรายการที่แยกระหว่างสาระและบันเทิงออกจากกันอย่างชัดเจน หรืออาจจะยังคงเป็นรายการที่มีทั้งสาระและบันเทิง ซึ่งความเป็นไปได้ในการผลิตรายการต่างๆ ดังกล่าว จะต้องผ่านการพิจารณาจากผู้บริหารสถานี นอกจากนี้ยังมีกระแสเรียกร้องจำนวนมากให้นำรายการเกมเศรษฐีและรายการฝันที่เป็นจริง นำมากลับมาจัดรายการใหม่อีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยนำรายการเดิมกลับมาทำใหม่ แต่มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีรูปแบบรายการในลักษณะเช่นเดิม แต่เปลี่ยนชื่อรายการใหม่

"นโยบายของบริษัทเน้นทำรายการที่มีสาระเป็นหลักและมีบันเทิงแทรก และพยายามที่จะนำสาระมาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความเชื่อว่าทำอะไรก็ตาม ต้องให้คนดูเห็นประโยชน์และนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิต หากรายการไม่มีสาระจะไม่ทำให้คนดูเสพติด ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ หรืออาจจะไปดูผ่านสื่ออื่น ทุกวันนี้สื่อทีวีกำลังไล่หลังตามสื่อออนไลน์ และทำให้สื่อออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลัก จากทีวีที่เป็นสื่อหลัก ซึ่งในอดีตทีวีเป็นสื่อที่มีค่าอย่างมาก ปัจจุบันทีวีไม่ควรมองตัวเองผิดพลาดและไล่ตามสื่ออื่นตลอด ที่สำคัญต้องขยายช่องทางให้ผู้ชมเข้าถึงรายการหรือช่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งการเป็นทีวีออนไลน์จะเป็นทางแก้ไขที่ดีขึ้น แม้ว่าข้อเสียของสื่อออนไลน์ในวันนี้คือเรื่องคุณภาพของเนื้อหาที่ยังไม่มีการกลั่นกรองมากพอก็ตาม"

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะทำรายการทีวีออนไลน์ออกมาคู่ขนานกับรายการทีวีในปัจจุบันด้วย หรือการขยายช่องทางอื่นๆ เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงรายการ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งการเปิดช่องทีวีออนไลน์จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อโทรทัศน์ได้ง่ายขึ้น แต่เนื้อหารายการจะต้องมีความน่าสนใจ และควรออกอากาศเฉพาะช่วงเวลาเดียวกับทีวี เพื่อให้ธุรกิจทีวีสามารถอยู่รอดได้

สำหรับพฤติกรรมผู้ชมในปัจจุบัน นายไตรภพ มองว่ายังให้ความสนใจกับรูปแบบรายการบันเทิงเป็นหลัก ส่งผลให้ผู้ผลิตรายการเกือบทุกรายต้องนำเสนอรายการ เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ขณะที่เนื้อหารายการที่มีสาระดีจะไม่ค่อยได้รับความสนใจและมีจำนวนรายการน้อยลง จึงอยากให้ทุกฝ่ายในสังคมร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตรายการ สถานีโทรทัศน์ และผู้ชม

"มองว่าคนเสพสื่อในยุคปัจจุบันมองข้ามการทำคุณประโยชน์ให้สังคมและพัฒนาตัวเองอยู่มาก และไม่ได้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ต้น ซึ่งต้องมองตัวเอง โดยส่วนตัวมีกฎ 5 ข้อหลักที่ยึดถึง คือ 1.ทำอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์กับโลก 2. ทำอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์กับประเทศ 3.ทำอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์กับสังคม 4. ทำอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์กับครอบครัว และ 5. ทำอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง ซึ่งหากคนไทยทุกคนสามารถทำได้ตามกฎดังกล่าว จะช่วยยกระดับมาตราฐานสังคมและอุตสาหกรรมสื่อให้ดีขึ้นได้ แต่อย่าทำกลับกันจากข้อ 5 ไปข้อ 1 เพราะคุณจะเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะทำเพื่อตัวเองก่อน"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,129 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559